สธ.กำชับสถานบริการใน 18 จังหวัด เตรียมรับมือ พายุ “ทกซูรี” พร้อมเตือนประชาชนระวังจมน้ำ

        กระทรวงสาธารณสุข กำชับสถานบริการใน 18 จังหวัดเสี่ยงได้รับผลกระทบจาก พายุ“ทกซูรี” เตรียมป้องกันอาคารสถานที่และครุภัณฑ์  พร้อมจัดหาพื้นที่ให้บริการสำรอง หรือจัดตั้งโรงพยาบาลสนามไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้รับบริการ เตือนผู้อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมระวังการจมน้ำ ตั้งแต่กรกฎาคม-ปัจจุบันพบเสียชีวิตแล้ว 44 ราย  

        นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนภัยพายุดีเปรสชัน“ทกซูรี” (DOKSURI) ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 17 - 22 กันยายน 2560 ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ได้สำรวจพบสถานบริการในสังกัดเสี่ยงได้รับผลกระทบใน 18 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี สกลนคร นครพนม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ พระนครศรีอยุธยา ยโสธร เพชรบูรณ์ พังงา บึงกาฬ สตูล ภูเก็ต สระบุรี มหาสารคราม ขอนแก่น พิษณุโลก แพร่ และอุตรดิตถ์

        นายแพทย์โสภณ กล่าวว่า เพื่อลดผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ได้กำชับสถานบริการใน 18 จังหวัดเสี่ยง ดำเนินการดังนี้ 1.เตรียมอาคารสถานที่และครุภัณฑ์ ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบ ดังนี้  ป้องกัน เช่น การเตรียมกระสอบทรายกั้นน้ำ การก่อสร้างที่กั้นน้ำสำหรับพื้นที่บริการผู้ป่วยหรืออาคารที่สำคัญจัดหาเครื่องสูบน้ำ  ยกสูง เช่น ยกครุภัณฑ์หรือเอกสารสำคัญขึ้นบนที่สูงให้เหนือระดับความเสี่ยงจากน้ำท่วมเพื่อป้องกันการเสียหาย เคลื่อนย้าย ให้เคลื่อนย้ายครุภัณฑ์และเอกสารสำคัญที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ไปยังสถานที่ที่ปลอดภัย 2.เตรียมการจัดบริการทางการแพทย์  จัดหาพื้นที่ให้บริการสำรอง ในกรณีที่สถานบริการไม่สามารถเปิดให้บริการได้ จัดเตรียมสถานที่สำรองหรือการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเมื่อจำเป็น เพื่อให้สามารถเปิดบริการฉุกเฉินได้  เตรียมการสำรองยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์  สำรวจ ประมาณการสำรองยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้เพียงพอต่อการให้บริการ  3. ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด 

        ล่าสุดวันนี้(17 กันยายน 2560)เวลา 13.20 น. นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ รายงานสถานการณ์ว่าโรงพยาบาลแพร่ได้รับผลกระทบจากน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบริเวณโดยรอบแต่ไม่เข้าไปในอาคาร ล่าสุดระดับน้ำลดลงจนเป็นปกติ สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ  ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม –ปัจจุบัน มีสถานบริการได้รับผลกระทบ 32 แห่ง ปิดให้บริการ 1 แห่ง คือ สถานีอนามัยบ้านน้ำจวง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก น้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร ปัจจุบันระดับน้ำลดลง แต่น้ำกัดเซาะตัวอาคารและใต้ล่างอาคาร  ส่วนรพ.สต.บ้านวังยาว จ.ร้อยเอ็ด น้ำท่วมถนนทางเข้าและรอบตัวอาคาร บ้านพัก และอาคารแพทย์แผนไทย ระดับน้ำสูง 123 ซม. ได้ไปเปิดให้บริการที่วัดวังยาว ส่วนสถานบริการอีก 30 แห่งอยู่ระหว่างการฟื้นฟูแต่สามารถเปิดให้บริการได้

          ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่น้ำท่วม ระมัดระวังอันตรายจากการจมน้ำ ข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตั้งแต่ 5 กรกฎาคม-ปัจจุบัน พบผู้เสียชีวิตที่มีสาเหตุจากการจมน้ำจำนวน 44 ราย ขอให้ปฏิบัติตัวเพื่อความปลอดภัยดังนี้ 1.ผู้ที่ประกอบอาชีพทางน้ำ เช่น หาปลา หากต้องเข้าพื้นที่น้ำท่วม หรือต้องทำกิจกรรมทางน้ำ เตรียมอุปกรณ์ป้องกันการจมน้ำ เช่น ถังแกลลอน ขวดน้ำพลาสติก ลูกมะพร้าว ห่วงยาง เสื้อชูชีพ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ช่วยให้ลอยตัวในน้ำได้ 2.ไม่ควรลงเล่นน้ำในช่วงน้ำท่วม และผู้ปกครองต้องดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด 3. ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หรือไม่สามารถดูแลตนเองได้ ต้องมีผู้ดูแล และไม่ปล่อยให้อยู่ตามลำพัง  4.หากพบคนจมน้ำ มีวิธีช่วยที่ถูกต้อง อาทิ ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ พร้อมโทรแจ้ง 1669 หากจำเป็นจะต้องลงน้ำไปช่วยเหลือ ต้องมั่นใจว่าว่ายน้ำเป็นและควรต้องมีอุปกรณ์ช่วยเหลือนำติดตัวไปด้วย

                                                                                        *************************************************  17 กันยายน 2560