กระทรวงสาธารณสุข ขยายโครงการฟันเทียมพระราชทานผู้สูงอายุต่อเนื่องอีก 3 ปี ตั้งเป้าอีก 90,000 ราย ในปี 2551-2553 เพื่อแก้ปัญหาการสูญเสียฟันในผู้สูงอายุให้ได้ร้อยละ 50 เผยผลโครงการฟันเทียมพระราชทาน 3 ปีที่ผ่านมา ยอดสูงทะลุเกินเป้าที่ตั้งไว้ 10,000 ราย แต่ยังมีผู้สูงอายุตกค้างต้องใส่ฟันเทียมอีกกว่า 200,000 ราย ชี้แนวโน้มผู้สูงอายุเสี่ยงต่อการสูญเสียฟันสูง เนื่องจากดูแลสุขภาพช่องปากไม่สม่ำเสมอตั้งแต่วัยเด็ก วันที่ (8 พฤศจิกายน 2550) ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ นายแพทย์มรกต กรเกษม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบหมายให้นายแพทย์โสภณ เมฆธน รองอธิบดีกรมอนามัย เป็นประธานพิธีถวายราชสักการะและสดุดีพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2550 และพิธีมอบฟันเทียมพระราชทานแก่ผู้สูงอายุ โดยกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับหน่วยทันตกรรมพระราชทาน และคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จัดโครงการรณรงค์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยใส่ ฟันเทียมผู้สูงอายุ 100 ราย และตรวจรักษาทันตกรรมแก่ประชาชนทั่วไป 300 รายฟรี นายแพทย์โสภณ กล่าวว่า ฟันเป็นอวัยวะสำคัญที่จะทำให้อาหารที่รับประทาน ถูกนำไปใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ทำให้คนเราอยู่ได้นานและมีความสุข ซึ่งกลุ่มผู้สูงอายุมักจะมีปัญหาเรื่องการเคี้ยวอาหารเป็นเรื่องหลัก จากการสำรวจสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุล่าสุด พบว่ามีการแปรงฟันวันละ 2 ครั้งตามเกณฑ์หลังตื่นนอนตอนเช้าและก่อนนอน เพียงร้อยละ 31 เท่านั้น ทำให้มีปัญหาฟันผุร้อยละ 96 และเหงือกอักเสบร้อยละ 62 สถานการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้ม ว่าผู้สูงอายุอาจจะสูญเสียฟันเพิ่มขึ้นได้ตลอดเวลา หากไม่ได้รับการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างเหมาะสม และต้องการบริการใส่ฟันเทียมเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ หลังจากกระทรวงสาธารณสุข จัดโครงการใส่ฟันเทียมพระราชทาน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ตั้งแต่ตุลาคม 2547- 30 กันยายน 2550 ที่ผ่านมา รณรงค์การดูแลสุขภาพช่องปากและใส่ฟันเทียมทั้งปากให้ผู้สูงอายุ 80,000 ราย จากการประเมินผลพบว่าสามารถใส่ได้กว่า 90,000 ราย เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ 10,000 ราย ซึ่งหลังใส่ฟันเทียมแล้ว ผู้สูงอายุกว่าร้อยละ 90 เคี้ยวอาหาร มีรอยยิ้มแจ่มใส ใบหน้าสวยงามขึ้น และเข้าร่วมกิจกรรมในสังคมอย่างมั่นใจ ขณะนี้มีผู้สูงอายุอีก กว่า 200,000 คน ที่ต้องการฟันเทียมทั้งปากเพื่อช่วยในการบดเคี้ยวอาหาร จึงขยายโครงการใส่ฟันเทียมพระราชทานให้ผู้สูงอายุต่อไปอีก 3 ปี ตั้งแต่ปี 2551-2553 เป้าหมาย 90,000 รายทั่วประเทศ ใช้งบประมาณ 540 ล้านบาท มั่นใจว่าเมื่อสิ้นสุดโครงการผู้สูงอายุจะมีฟันใช้เคี้ยวอาหารอย่างเหมะสมร้อยละ 50 นายแพทย์โสภณ กล่าวต่อว่า ปี 2550 กรมอนามัยได้จัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโครงการฟันเทียมพระราชทานอย่างต่อเนื่อง โดยรณรงค์จัดบริการใส่ฟันเทียมผู้สูงอายุในถิ่นทุรกันดาร ร่วมกับหน่วย ทันตกรรมพระราชทาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ถวายฟันเทียมแด่พระภิกษุสงฆ์เนื่องในวันสถาปนากรมอนามัยครบ 55 ปี จำนวน 85 ราย สำหรับจังหวัดกระบี่ จัดตั้งแต่วันที่ 5-9 พฤศจิกายน 2550 โดยให้บริการใส่ ฟันเทียมแก่ผู้สูงอายุในถิ่นทุรกันดารทุกอำเภอ 100 ราย บริการรักษาทางทันตกรรมเพื่อลดการสูญเสียฟัน จัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ นิทรรศการเพื่อสุขภาพผู้สูงอายุ กิจกรรมแปรงสีฟันเก่าแลกแปรงสีฟันใหม่ เพื่อสนับสนุนการดูแลสุขภาพช่องปากตนเอง ทั้งนี้ผู้สูงอายุที่มีความประสงค์จะเข้ารับบริการใส่ฟันเทียมพระราชทาน ขอให้ติดต่อที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป **********************8 พฤศจิกายน 2550


   
   


View 6    08/11/2550   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ