กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชน จัดฟันแฟชั่น อันตรายทั้งฟันล้ม ฟันผุ รากฟันละลาย เหงือกอักเสบ ติดเชื้อจากอุปกรณ์ไม่สะอาด ผู้ให้บริการจัดฟันแฟชั่น และร้านจัดฟันเถื่อน ผิดกฎหมาย มีโทษทั้งจำคุก ปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ
แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัยและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุข จะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ให้บริการจัดฟันแฟชั่น โดยผู้ที่ไม่ใช่ทันตแพทย์ และขอเตือนประชาชนว่า อย่าจัดฟันแฟชั่นเพราะอยากสวยตามสมัยนิยม เพราะเป็นอันตรายต่อช่องปากและฟัน ทั้งฟันล้ม ฟันผุ รากฟันละลาย เหงือกอักเสบ ติดเชื้อจากอุปกรณ์ไม่สะอาด ดังจะเห็นจากข่าวที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ โดยการเปิดร้านจัดฟันแฟชั่น ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ฐานเปิดคลินิกเถื่อน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ การให้บริการจัดฟันโดยที่มิใช่ทันตแพทย์ จะมีความผิดตามพ.ร.บ.วิชาชีพทันตกรรม พ.ศ. 2537 ฐานประกอบวิชาชีพทันตกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)อยู่ระหว่างดำเนินการกำหนดให้วัสดุทันตกรรมสำหรับงานจัดฟันทุกรายการ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องขึ้นทะเบียนเครื่องมือแพทย์ เพื่อให้มีการควบคุมตั้งแต่การนำเข้า การผลิต จำหน่าย และการโฆษณาตาม พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2551 และคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กองคุ้มครองผู้บริโภค ด้านธุรกิจขายตรงและการตลาดแบบตรง ได้ออกประกาศเรื่อง ห้ามขายอุปกรณ์จัดฟันผู้ที่ดำเนินธุรกิจจัดฟันแฟชั่นออนไลน์ที่เชิญชวนให้ผู้บริโภคจัดฟันแฟชั่น และผู้ประกอบการที่รับทำรีเทนเนอร์โดยให้ผู้บริโภคส่งรอยพิมพ์ปากโดยไม่มีคำสั่งจากทันตแพทย์ รวมทั้งผู้ที่ขายอุปกรณ์จัดฟันทุกประเภท เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย มีโทษจำคุก 5ปีปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้าน ทันตแพทย์หญิงปิยะดา ประเสริฐสม ผู้อำนวยการกองทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กล่าวว่า การจัดฟันเป็นการรักษาความผิดปกติในการเรียงตัวของฟันที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อรูปร่างปากและใบหน้า เช่น ฟันซ้อนเกการสบฟันไม่ดี การมีช่องห่างระหว่างฟัน ซึ่งจะต้องทำโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดฟัน วางแผนปรับเปลี่ยนตำแหน่งของฟันให้เลื่อนมายังตำแหน่งที่ถูกต้อง ฟันเรียงอย่างสวยงาม เพิ่มประสิทธิภาพการบดเคี้ยว แต่การจัดฟันแฟชั่น กระทำโดยผู้ที่ไม่มีความรู้ทางทันตกรรม จึงไม่รู้เท่าทันถึงผลที่จะตามมา เช่น แรงที่เกิดจากลวดจัดฟัน อาจติดลวดจัดฟันให้ลูกค้าโดยมีแรงจากลวดมากเกินไปส่งผลให้ฟันเกิดการเคลื่อนไปในทิศทางที่ไม่ต้องการ จนฟันเรียงตัวผิดรูป หรือทำให้รากฟันละลายจนฟันตายได้ นอกจากนี้ อุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดฟันอาจไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ หรือฆ่าเชื้อไม่ถูกวิธี ทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคที่อุปกรณ์เหล่านี้ และเกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่อาจเป็นโรคติดต่อ เช่น โรคตับอักเสบ ขณะติดเครื่องมือได้
นอกจากนี้ วัสดุที่ใช้ในการจัดฟันแฟชั่นอาจเป็นวัสดุที่ไม่มีคุณภาพ มีการปนเปื้อนของสารพิษต่างๆ เช่น สนิม ปรอท แคดเมียม สารหนูจากลูกปัดหรือลวดจัดฟันที่ไม่ได้คุณภาพซึ่งสารพิษเหล่านี้จะถูกดูดซึม สะสมเข้าไปในร่างกายอย่างต่อเนื่องนอกจากนั้นการมีเครื่องมือจัดฟันในช่องปากจะขัดขวางต่อการทำความสะอาด ช่องปาก ถ้าไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีจะทำให้เกิดฟันผุ หรือโรคเหงือกอักเสบตามมา
********************************* 8 พฤษภาคม 2561
View 28
08/05/2561
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ