หมอใหญ่ชี้เด็กเล็กสู้ภัยหนาวได้น้อย เพราะศูนย์ควบคุมอุณหภูมิร่างกายเจริญไม่เต็มที่

กรมอนามัย เตือนพ่อแม่ดูแลความอบอุ่นร่างกายเด็กในช่วงหน้าหนาวเป็นพิเศษ เนื่องจากศูนย์ควบคุมอุณหภูมิในตัวเด็กยังทำงานไม่เต็มที่ จึงเปลี่ยนแปลงง่ายตามตามอากาศ ควรใส่เสื้อผ้าหนาๆ หรือใส่หลายชั้น ห่มผ้าหนากว่าปกติตอนนอน กินอาหารจำพวกแป้งและไขมัน เช่น ข้าว เนื้อสัตว์ติดมัน ตามที่มีข่าวเด็กทารกอายุ 3 เดือน ร้องไห้โยเยจนหลับไป จนกระทั่งแม่เด็กมาพบในตอนเช้าว่าเด็กเสียชีวิตแล้ว โดยยืนยันว่าเด็กไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยใดๆ มาก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าสาเหตุอาจเกิดจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง ประกอบกับเด็กไม่มีเครื่องกันหนาวห่อหุ้มร่างกาย และสภาพบ้านมีรูโหว่หลายแห่ง ไม่สามารถคุ้มกันความหนาวได้นั้น นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า เรื่องนี้น่าสลดใจอย่างยิ่ง ต้องขอแสดงความเสียใจกับแม่ที่ต้องเสียลูกไปโดยไม่คาดคิดด้วย ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาได้รายงานสภาพอากาศว่า มวลอากาศเย็นระลอกใหม่จากประเทศจีน จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยในวันที่ 4 ธันวาคมนี้ และจะทำให้อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงต้องขอย้ำเตือนพ่อแม่ ผู้ปกครองทุกคนให้ตระหนักว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็นเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตได้ เนื่องจากศูนย์ควบคุมอุณหภูมิของร่างกายของเด็กยังทำงานไม่เต็มที่ อุณหภูมิร่างกายเด็กจึงเปลี่ยนแปลงได้ง่ายตามสภาพอากาศ อีกทั้งเด็กยังมีภูมิต้านของร่างกายต่ำกว่าผู้ใหญ่ ทำให้เจ็บป่วยได้ง่ายกว่า นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในช่วงฤดูหนาว การให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด พ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรใส่ใจดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถพูดบอกความรู้สึก หรือบอกความผิดปกติของตนเองได้ ควรใส่เสื้อผ้าหนาๆ ใส่ถุงเท้า หมวกไหมพรม หรือถ้าไม่มี ให้ใส่เสื้อผ้าหลายๆ ชั้น และห่มผ้าให้หนามากกว่าปกติขณะเด็กนอน นอกจากนี้ ควรให้เด็กอยู่ในบริเวณที่อบอุ่น ไม่ให้นอนใกล้หน้าต่างหรือประตู ที่มีลมหนาวโกรกได้ง่าย และหากมีการก่อไฟให้ความอบอุ่น ก็ไม่ควรนำเด็กไปไว้ใกล้บริเวณที่มีควันไฟ เพราะจะระคายเคืองเยื่อบุทางเดินหายใจเด็ก และทำให้ป่วยได้ ด้านนายแพทย์สมศักดิ์ ภัทรกุลวณิชย์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย กล่าวว่า สิ่งที่ต้องระวังในช่วงฤดูหนาวอีกเรื่องหนึ่งคือ ความเปียกชื้น โดยการอาบน้ำหรือชำระล้างตัวเด็กเวลาเปื้อน ควรใช้น้ำอุ่นๆ และอาบน้ำในบริเวณที่ไม่มีลมโกรก เลือกเวลาที่อากาศไม่เย็นมาก เช่น ตอนบ่าย ส่วนในเด็กเล็ก ต้องคอยหมั่นเปลี่ยนผ้าอ้อม เมื่อเด็กปัสสาวะหรืออุจจาระเปียกแฉะ นอกจากนี้ การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ประเภทแป้งและไขมัน เช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว เนื้อสัตว์ติดมัน ก็จะช่วยสร้างความอบอุ่นแก่ร่างกายได้ หากเป็นเด็กทารก ควรให้กินนมแม่ เพราะนอกจากจะทำให้เด็กได้รับภูมิต้านทานโรคจากนมแม่แล้ว การที่แม่โอบลูกขณะกินนมยังสร้างความอบอุ่นให้กับเด็กด้วย ส่วนเด็กโต นอกจากรับประทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ เพราะจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ริมฝีปากและผิวหนังเด็กไม่แห้งแตก ที่สำคัญ พ่อแม่ ผู้ปกครองต้องหลีกเลี่ยงไม่นำเด็กไปใกล้คนที่เป็นหวัด ไอ จาม เพราะมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย *********************************** 4 ธันวาคม 2550