“สธ. – ก.ท่องเที่ยวฯ” เปิดงาน "ท่องเที่ยวสุขภาพดี รวมพล 100 ร้าน มาตรฐานสาธารณสุข ล้านนา R1” ยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพเมืองเหนือสู่การท่องเที่ยวสุขภาพระดับโลก
- สำนักสารนิเทศ
- 124 View
- อ่านต่อ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้ผู้บริหารกระทรวงฯ สนับสนุน ติดตามการดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ของ คกก.พัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) กำหนดเป้าหมายในปี 2561 พัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างน้อย 2 ประเด็น พร้อมตั้ง 3 อนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินงาน
ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมทางไกลผู้ตรวจราชการ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) ทั่วประเทศ ในการดำเนินงานตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับพื้นที่ พ.ศ.2561 โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2561
ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกลกล่าวว่า แนวทางการดำเนินงานของ พชอ. ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และเกิดความร่วมมือของทุกฝ่าย ใช้หลักการประชารัฐ ดึงทุกภาคส่วน และประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมเป็นเจ้าของ ขับเคลื่อนโดยยึดหลักการ 4 ข้อ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาใช้ คือ 1.คิดและทำนอกกรอบ นอกระบบราชการ 2.ทำให้เร็ว ให้เกิดผล จะได้มีกำลังใจทำต่อไป 3.พึ่งตัวเองให้ได้ ทั้งอำเภอ โรงพยาบาล ดึงชุมชนเข้ามาร่วมพึ่งตัวเองได้ ให้เกิดความยั่งยืน และ4.ทำงานแบบปิดทองหลังพระ จากการลงพื้นที่เยี่ยม อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบว่ามีการดำเนินงานที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ได้ผลเป็นรูปธรรม และเกิดสิ่งดี ๆ ขึ้น ภายใต้การนำของนายอำเภอ การมีส่วนร่วมของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน มีสาธารณสุขอำเภอเป็นเลขานุการ โดยผู้บริหารจะให้การสนับสนุน ติดตามเยี่ยมเสริมพลังและรับฟังการทำงานในพื้นที่ต่อไป
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เป้าหมายและแนวทางการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ได้แก่ 1.โครงการพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 2.โครงการพระราชดำริสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เช่น โครงการจิตอาสาพระราชทานทำความดีด้วยหัวใจ 3.โครงการในพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เช่น โครงการคนไข้ในพระราชานุเคราะห์ โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย การควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนแห่งชาติ เป็นต้น 4.สนับสนุนขับเคลื่อนโครงการไทยนิยมยั่งยืนให้ชุมชนครัวเรือนเข้มแข็ง 5.การดูแลผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ เด็ก และเยาวชน เน้นการดูแลสุขภาพส่งเสริมโอกาสในการควบคุมป้องกันโรคมากกว่าการรักษา และ6.การทำงานเน้นในเรื่องของการพัฒนา ยึดปัญหาของแต่ละพื้นที่ รักษาสิ่งแวดล้อม ลดปัญหาอุบัติเหตุ โดยให้ พชอ. พิจารณาประเด็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตในปี 2561 อย่างน้อย 2 ประเด็น และติดตามประเมินผลการดำเนินงานเมื่อสิ้นปีงบประมาณ 2561
นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า ได้ตั้งอนุกรรมการ 3 คณะ เพื่อให้ พชอ.ทุกอำเภอได้ขับเคลื่อนงานไปพร้อมกัน ได้แก่ 1.คณะอนุกรรมการเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตในพื้นที่ โดยมีผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน 2.คณะอนุกรรมการติดตามประเมินผลและเสริมสร้างพลังการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับพื้นที่ มีรองอธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน และ3.คณะอนุกรรมการสื่อสารและประชาสัมพันธ์การพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับพื้นที่ มีผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพเป็นประธาน
***************************************** 3 มิถุนายน 2561