กระทรวงสาธารณสุข ขับเคลื่อนการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างความมั่นคงด้านสุขภาพ ตั้งเป้าหมายในปี 2565 ประชาชนเข้าถึงบริการการแพทย์แผนไทยร้อยละ 20 มูลค่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพิ่มขึ้นเป็น 3.6 แสนล้านบาท นวดไทยสู่มรดกโลก 

          วันนี้ (25 มกราคม 2562) ที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พร้อมชมนิทรรศการพิกัดยา 3 สิ่ง ที่ใช้ดูแลสุขภาพ ปรับสมดุลธาตุในร่างกายแต่ละฤดู ได้แก่ พิกัดตรีผลา ฤดูร้อน แก้ไอขับเสมหะ เพิ่มภูมิต้านทานร่างกาย พิกัดตรีกฏุก ฤดูฝน แก้โรคทางลม ขับลม ขับเสมหะ และพิกัดตรีสาร ฤดูหนาว กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต เพิ่มความอบอุ่นร่างกาย

          ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกลกล่าวว่า ประเทศไทย ได้ขับเคลื่อนงานปฏิรูปประเทศ ด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจ ต้องการให้สมุนไพรไทย ภูมิปัญญาไทยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพ สำหรับในปี 2562 – 2565 จะเน้นให้ประชาชนเข้าถึงบริการการแพทย์แผนไทยร้อยละ 20 มูลค่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพิ่มขึ้นเป็น 3.6 แสนล้านบาท และนวดไทยสู่มรดกโลก เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ  โดยพัฒนาวิชาการและหลักสูตรการศึกษา ส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้านไทย พัฒนาคุณภาพมาตรฐานการบริการเป็นทางเลือกประชาชนในการดูแลสุขภาพ เชื่อมโยงในระบบบริการปฐมภูมิ จัดตั้งโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยประจำภาค ยกระดับนวดไทยสู่สากล รวมทั้งอุตสาหกรรม สมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจ ให้สมุนไพรไทยเป็นสินค้าที่ขายระดับโลกได้ โดยจัดทำ Big Data เชื่อมโยงข้อมูลผู้ปลูก ผู้ผลิต ผู้บริโภค ตลาดกลางสมุนไพรที่มีคุณภาพมาตรฐาน ตลาดกลางสมุนไพรออนไลน์ อุตสาหกรรมสารสกัดเช่น บัวบก ขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร ไพล และกระชายดำ สมุนไพร สร้างความเชื่อมั่นประชาชนต่อผลิตภัณฑ์สมุนไพรและบริการการแพทย์แผนไทย รวมทั้งเร่งผลักดันพระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. ...  ซึ่งจะเข้าสู่การพิจารณาของสนช.เร็วๆ นี้

          ด้านนพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า กรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้ขับเคลื่อนสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจครบวงจร เพื่อเพิ่มมูลค่าจากวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สมุนไพรเป็น 3.6 แสนล้านบาทภายในปี 2564 และเป็นศูนย์กลางสมุนไพรของโลกในปี 2580 โดยดำเนินการตั้งแต่ต้นทาง พื้นที่ปลูกสมุนไพร 5,500 ไร่ ต้องเป็นวัตถุดิบปลอดภัยและได้มาตรฐาน ขณะนี้มีพื้นที่ปลูกแล้ว 3,370 ไร่ โดยคัดเลือกและพัฒนาสายพันธุ์ แปรรูปวัตถุดิบเพิ่มมูลค่า การทำสัญญาซื้อขายผลผลิตล่วงหน้ากับเกษตรกร  กลางทาง ผลิตภัณฑ์สมุนไพรมีคุณภาพ นวัตกรรมเพิ่มมูลค่า และลดต้นทุนการผลิต โดยส่งเสริมอุตสาหกรรมสารสกัด การวิจัยนวัตกรรม จัดศูนย์ให้คำปรึกษาและส่งเสริมผู้ประกอบการ ในปี 2561 มีมูลค่าเกือบ 27 ล้านบาท และปลายทาง ส่งเสริมการตลาดในและต่างประเทศ ช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศ 559.718 ล้านบาท โดยการจับคู่ทางธุรกิจกับต่างประเทศ เปิดร้านค้าสมุนไพรในเมืองสมุนไพร จัดทำมาตรฐานคุณภาพผลิตภัณฑ์เพื่อการรับรองคุณภาพ

มกราคม ****************************  25 มกราคม 2562



   
   


View 844    25/01/2562   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ