กระทรวงสาธารณสุข ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจ ร้านอาหาร ผับ บาร์ ตลาด ให้เป็นพื้นที่ปลอดควันบุหรี่ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 18 ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หากสถานที่ใดยังไม่ปฏิบัติตามจะตักเตือนก่อนให้ปรับปรุง จะจับปรับในวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2551 ส่วนนักสูบจะไม่ยกเว้น ปรับสถานเดียว 2,000 บาท
นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกฎหมายบังคับพื้นที่ปลอดบุหรี่ฉบับที่ 18 ซึ่งกำหนดให้ร้านอาหาร ผับ บาร์ ตลาดทุกประเภท ทั้งที่ติดแอร์และไม่ติดแอร์ เป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ (11 กุมภาพันธ์ 2551) เป็นต้นไป ว่า ในวันนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะส่งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ตรวจสอบร้านอาหาร ผับ บาร์ ตลาดทุกประเภท ที่มีทั่วประเทศรวมกว่า 40,000 แห่ง ให้เป็นเขตปลอดบุหรี่ตามกฎหมาย โดยในผับ บาร์ ร้านอาหารที่ติดแอร์ จะต้องเป็นเขตปลอดควันบุหรี่ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่สามารถจัดสถานที่สูบภายนอกที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกได้ ส่วนตลาด ร้านอาหารที่ไม่ติดแอร์ ให้จัดมุมให้สูบบุหรี่ไว้ต่างหาก แต่ต้องให้ห่างไกลผู้คน ไม่ส่งกลิ่นรบกวน หากพบสถานประกอบการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ในขั้นแรกจะให้ตักเตือนแนะนำก่อน และตรวจซ้ำให้เป็นไปตามข้อกำหนด โดยจะดำเนินการตามกฎหมายพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 มีโทษปรับ 20,000 บาท แต่ในส่วนของนักสูบ ซึ่งขณะนี้ทั่วประเทศมีประมาณ 11 ล้านคน จะไม่มีการยกเว้น หากพบการฝ่าฝืนสูบในที่ห้ามสูบ จะดำเนินการตามกฎหมายทันที มีโทษปรับ 2,000 บาท
นายไชยากล่าวว่า การเพิ่มพื้นที่ปลอดบุหรี่นี้ จะเป็นผลดีต่อประชาชนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ซึ่งมีประมาณ 52 ล้านคน ไม่ต้องสูดควันบุหรี่มือสองซึ่งมีพิษภัย เนื่องจากในควันบุหรี่มีสารพิษกว่า 4,000 ชนิด และมีสารก่อมะเร็งอย่างน้อย 42 ชนิด มั่นใจว่าจะลดความเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็งที่เป็นสาเหตุคนไทยเสียชีวิตสูงเป็นอันดับ 1 ปีละเกือบ 60,000 ราย ในจำนวนนี้เป็นมะเร็งปอดมากที่สุด โดยนักวิทยาศาสตร์และแพทย์ทั่วโลกยืนยันตรงกันว่า บุหรี่เป็นสาเหตุ 1 ใน 3 ของโรคมะเร็งปอด เป็นทั้งผู้สูบและผู้ที่ไม่ได้สูบแต่ได้รับควันบุหรี่มือสอง เนื่องจากในควันบุหรี่จะมีสารก่อมะเร็ง ได้แก่ น้ำมันดินหรือสารทาร์ สารกัมมันตภาพรังสีและยาฆ่าแมลงที่ตกค้างจากใบยาสูบ นอกจากนี้ เชื่อว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดของคนไทย ที่มีปีละกว่า 20,000 ราย จะลดลงในอนาคตด้วย
ทางด้านนายแพทย์สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้เปิดศูนย์ร้องเรียนการฝ่าฝืนกฎหมายคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ ประชาชนสามารถแจ้งได้ที่หมายเลข 0-2590-3342 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทางเว็บไซต์ www.thaiantitobacco.com โดยในเย็นวันนี้กรมควบคุมโรคจะออกตรวจตลาดและร้านอาหารที่ย่านจังหวัดนนทบุรี เพื่อประชาสัมพันธ์แนะนำให้ปฏิบัติตามกฎหมาย
ทั้งนี้ มีข้อมูลว่า ผู้สูบบุหรี่ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงและมีไขมันในเลือดสูงร่วมด้วย ยิ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจถึง 8 เท่าตัว เสี่ยงเกิดกล้ามเนื้อหัวใจวายเฉียบพลันมากกว่าคนที่ไม่สูบถึง 10 เท่าตัว เนื่องจากในควันของบุหรี่จะมีสารนิโคติน ทำให้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจและสมองตีบได้ และมีก๊าซพิษที่มีชื่อว่าไฮโดรเจนไซยาไนด์ ทำให้เกิดหลอดเลือดแข็งตัว โดยในผู้ที่มีอาการป่วยเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ การหยุดสูบบุหรี่ จะลดโอกาสเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายและเสียชีวิตกะทันหันลงได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์
*************************** 11 กุมภาพันธ์ 2551
View 8
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ