“สธ. – ก.ท่องเที่ยวฯ” เปิดงาน "ท่องเที่ยวสุขภาพดี รวมพล 100 ร้าน มาตรฐานสาธารณสุข ล้านนา R1” ยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพเมืองเหนือสู่การท่องเที่ยวสุขภาพระดับโลก
- สำนักสารนิเทศ
- 98 View
- อ่านต่อ
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร ตรวจเยี่ยมกรมควบคุมโรค ชื่นชมศักยภาพระบบที่มีความพร้อมรับมือโรคติดต่อ โรคไม่ติดต่อ รวมทั้งโรคจากภัยธรรมชาติ
วันนี้ ( 21 ตุลาคม 2562) ที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร ตรวจเยี่ยมกรมควบคุมโรค พร้อมให้นโยบายว่า ต้องขอชื่นชมกรมควบคุมโรคมีระบบป้องกันและควบคุมโรคที่เพียบพร้อมและมีศักยภาพรับมือโรคติดต่อ โรคไม่ติดต่อ รวมทั้งโรคจากภัยธรรมชาติ ซึ่งที่ผ่านมาสามารถควบคุมโรคได้ดีไม่พบการระบาดของโรคต่างๆ เช่น ไข้หวัดนก ซาร์ส ขอให้มุ่งเน้นการทำงานในภาระหน้าที่เน้นหนักจัดการในเรื่องการควบคุมป้องกันโรค และส่งต่องานให้เครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ต้องพยายามทำทุกอย่างเอง
กรมควบคุมโรค ได้พัฒนาการระบบเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพที่เข้มแข็งโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง อย่างมีประสิทธิภาพทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉินโดยยึดหลัก 3 ประการ 1.การป้องกันทุกโรคและภัยสุขภาพที่ป้องกันได้ 2.การเฝ้าระวังตรวจจับโรคและภัยสุขภาพที่รวดเร็ว 3.การตอบโต้ทันสถานการณ์และมีประสิทธิภาพ เน้น “การสร้างความเข้มแข็งจากภายใน เชื่อมโยงไทยสู่ประชาคมโลก” การสร้างความเข้มแข็งด้วยการใช้นวัตกรรม ยึดหลักธรรมาภิบาลความคุ้มค่า
นอกจากนี้ยังมีการการนำดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศ มาใช้ในการบริหารจัดการ เพิ่มประสิทธิภาพระบบการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ รวมทั้งการพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ เช่น การพัฒนาวิทยาการหุ่นยนต์ ระบบสื่อสารทางไกลทางการแพทย์ การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ การพัฒนาระบบขนส่งยาทางอากาศโดยใช้เทคโนโลยีโดรน
ทั้งนี้ ในปี 2563 กรมควบคุมโรคจะเร่งพัฒนางาน 7 ด้าน ได้แก่ 1.ยกระดับความสามารถในการรับมือโรคอุบัติใหม่ อุบัติซ้ำและภัยสุขภาพ ต้องมีการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการภาวะฉุกเฉินและเทคโนโลยี 2.ลดป่วยโรคสำคัญ 3.ป้องกัน ควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคผ่านกลไก อสม. เช่น เรื่องไข้เลือดออกมีประเมินลูกน้ำยุงลาย 4.พัฒนางานตามแนวพระราชดำริและโครงการเฉลิมพระเกียรติ เช่น โครงการโรคพิษสุขนัขบ้า 5.กำจัดกวาดล้างโรคตามพันธะสัญญา ได้แก่ โรคหัด โปลิโอ และมาลาเรีย 6.พัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและนวตกรรม และ 7.เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการภาครัฐ
*********************************** 21 ตุลาคม 2562
********************************************