รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันการโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 จำนวน 3 ราย ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ เป็นการปรับเปลี่ยนการทำงาน เพื่อให้เกิดความคล่องตัว สมดุลและความเหมาะสม ไม่มีผลกระทบต่อการทำซีแอล นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับ 10 ของกระทรวงสาธารณสุขในวันนี้ ( 26 กุมภาพันธ์ 2551 ) ว่า ได้โยกย้ายสับเปลี่ยนผู้บริหารจำนวน 3 ราย เพื่อความเหมาะสม ได้แก่ 1.นายแพทย์ชาตรี บานชื่น จากอธิบดีกรมการแพทย์ เป็นเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) 2. นายแพทย์ศิริวัฒน์ ทิพธราดล จากเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข และ 3. นายแพทย์เรวัติ วิศรุตเวช จากผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เป็นอธิบดีกรมการแพทย์ นายไชยากล่าวว่า การโยกย้ายข้าราชการครั้งนี้ ถือว่าเป็นหมุนเวียน สับเปลี่ยนกันทำงาน ไม่เกี่ยวกับศักดิ์ศรี ใครอยู่ตรงไหนก็ทำงานได้ และการโยกย้ายครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการทำซีแอล และไม่มีผลกระทบกับการทำงาน ซึ่งยังคงเน้นหนักที่การรักษาผลประโยชน์ของประชาชนประเทศเป็นหลัก เน้นให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาให้มากที่สุด การประกาศโยกย้ายมีผลตั้งแต่วันนี้ (26 กุมภาพันธ์ 2551) เป็นต้นไป ส่วนตำแหน่งอธิบดีต้องรอโปรดเกล้าฯต่อไป นายไชยา กล่าวต่อไปว่า การย้ายนายแพทย์ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ ไปเป็นเลขาธิการคณะกรรรมการอาหารและยานั้น ยึดตามความอาวุโส มีวัยวุฒิสูง มีความชำนาญในทุกเรื่อง เชื่อว่าจะสามารถทำงานได้ดี โดยจะเน้นให้ เป็นผู้ดูแลการต่อรองกับบริษัทยา เพื่อให้ได้ผลประโยชน์มากที่สุด เรื่องการทำซีแอลยารักษาโรคมะเร็ง 4 ชนิด ยังไม่มีการยกเลิกแต่อย่างใด โดยยาต้านไวรัสเอดส์ และยารักษาโรคหัวใจที่ประกาศซีแอลไปแล้ว ให้ดำเนินการต่อไป สำหรับการโยกย้ายนายแพทย์ศิริวัฒน์ ทิพธราดล เลขาธิการ อย. ไม่เกี่ยวข้องกับซีแอล เพราะเลขา อย.ไม่ใช่ผู้ที่ทำเรื่องซีแอลโดยตรง และไม่ได้เป็นผู้ประกาศ การปรับเปลี่ยนครั้งนี้เพื่อทำงานให้คล่องตัว ให้เกิดความสมดุลและเหมาะสม ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งตนไม่มีสิทธิที่จะย้ายใครตามอำเภอใจ โดยดูจากประวัติการรับราชการ ตนยืนยันว่าไม่มีปัญหากับเลขา อย.แต่อย่างใด ส่วนการโยกย้าย นายแพทย์เรวัติ วิศรุตเวช ไม่เกี่ยวข้องว่าจะเป็นคนของรัฐบาลชุดไหน แต่ปรับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสม “ผมมีความสุขที่ได้มาทำงานกับกระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานที่ดูแลสุขภาพประชาชน และดูแลโรงพยาบาล ซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้ายของผู้เจ็บป่วย จะดูแลกระทรวงสาธารณสุขด้วยตำแหน่งและอำนาจหน้าที่เต็มไปด้วยเจตนาดีและปรารถนาดีต่อทุกคน” นายไชยา กล่าว


   
   


View 9    26/02/2551   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ