รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เตรียมเสนอร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุขเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อเยียวยาผู้ที่ได้รับความเสียหาย โดยไม่ต้องพิสูจน์ความถูกผิด ให้ทันใช้ในปี 2551 ระหว่างรอพ.ร.บ.คลอด ไฟเขียวตั้งกองทุนช่วยเหลือทางการแพทย์ เป็นการด่วน เพื่อเป็นช่องทางสร้างความเข้าใจที่ดีระหว่างผู้ให้และผู้รับบริการ ลงขันประเดิมจาก 2 รัฐมนตรี เข้ากองทุนคนละ 1 ล้านบาท วันนี้ ( 27 กุมภาพันธ์ 2551 ) นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวง์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมผู้บริหารระดับสูง ประกอบด้วยรองปลัดกระทรวงฯ อธิบดีกรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข สาธารณสุขนิเทศก์ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกหลังจากเข้ารับตำแหน่ง โดยวาระสำคัญการประชุมในวันนี้ ได้แก่การจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ให้และผู้รับบริการที่ได้รับความเสียหายทางการแพทย์ ความคืบหน้าของการทำซีแอลยารักษาโรคมะเร็ง 4 ชนิด การเตรียมการให้บริการผู้ป่วยโคไตวายเรื้อรัง ภายหลังการประชุม นายไชยาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับ มาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากบริการทางการแพทย์ว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขมิได้นิ่งนอนใจ กำลังเร่งเดินหน้า จัดทำร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข เตรียมนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้เร็วที่สุด เพื่อให้ทันประกาศใช้ในปี 2551 นี้ เนื่องจากปัญหาดังกล่าวทวีความรุนแรงมากขึ้น ตั้งแต่พ.ศ. 2547 จนถึงขณะนี้ มีแพทย์ถูกฟ้องเป็นคดีแพ่งและคดีอาญาเนื่องมาจากการรักษาพยาบาล รวม 70 คดี ส่งผลต่อขวัญกำลังใจของแพทย์และผู้ที่จะตัดสินใจเรียนอาชีพแพทย์ ที่มีชีวิตคนป่วยเป็นเดิมพัน ซึ่งแพทย์ทุกคนมีความตั้งใจรักษาคนป่วยให้หายจากการป่วยไข้เร็วที่สุด จึงต้องเร่งแก้ไขเป็นการด่วน นายไชยา กล่าวว่า ในระหว่างที่รอพระราชบัญญัติฯฉบับดังกล่าว กระทรวงสาธารณสุขได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือทั้งผู้ให้และผู้รับบริการทางการแพทย์ขึ้นที่กระทรวงสาธารณสุขเป็นการด่วน เพื่อเยียวยาผู้ที่ได้รับความเสียหาย ได้รับความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุดบนหลักการของคุณธรรมและมนุษยธรรม เพื่อ ลดความรุนแรง ผ่อนหนักให้เป็นเบา ลดคดีการฟ้องร้องศาล ได้ลงนามเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2551 “แหล่งที่มาของเงินเข้ากองทุนดังกล่าว มาจากเงินบริจาค ในเบื้องต้นนี้ ผมจะบริจาคลงขันกับรัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงสาธารณสุข คนละ 1 ล้านบาทก่อน และจะจัดทำรายการกุศลอื่นๆ เพื่อหาเงินเข้ากองทุนอีก โดยจะตั้งสำนักงานกองทุนและตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ประกอบด้วยรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีทุกกรม มีปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน เพื่อกำหนดแนวทางการบริหารงานและให้ตั้งคณะอนุกรรมการ พิจารณาคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือ 1 ชุด ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ ซึ่งจะทำให้ผู้เสียหายทั้งผู้ให้และผู้รับบริการได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ตามสภาพที่เกิดขึ้นรวมถึงสภาพจิตใจด้วย” นายไชยากล่าว นายไชยา กล่าวต่อไปว่า ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขทุกเขต ให้ตั้งทีมเจรจากับผู้ที่ได้รับความเสียหายทางการแพทย์หากมีปัญหาเกิดขึ้นในพื้นที่ โดยเร็วที่สุด เพื่อสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างกัน ขอให้ดำเนินการเรื่องนี้ให้ดีที่สุด โดยหากผู้ได้รับความเสียหายได้รับความช่วยเหลือจากเงินกองทุนนี้แล้ว ถือว่าเรื่องสิ้นสุด ต้องไม่นำไปฟ้องร้องต่ออีก 2/ทางด้านนายแพทย์พิพัฒน์ ทางด้านนายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กองทุนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจัดตั้งเพื่อช่วยเหลือทั้งผู้ให้และผู้รับบริการทางการแพทย์ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ดีและถูกต้อง ระหว่างผู้ให้บริการและผู้รับบริการ ในกรณีที่มีปัญหาจากการบริการ และเพื่อลดการนำคดีไปสู่การฟ้องร้องชั้นศาล ทางกระทรวงสาธารณสุขจะได้เร่งดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการและคณะทำงาน เพื่อกำหนดในรายละเอียดหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายของกองทุนโดยเร็ว ***************************** 27 กุมภาพันธ์ 2551


   
   


View 12    27/02/2551   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ