รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อสม.ดีเด่นระดับชาติและรางวัลอสม.ดีเด่นประจำปี 2551 รวม 653 คน เป็นขวัญและกำลังใจ เนื่องในวัน “อาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ” ประจำปี 2551 โดยในปีนี้เตรียมเสนอครม.ของบกว่า 700 ล้านบาท เป็นกองทุนให้อสม.ดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้พิการตามชุมชนหมู่บ้านประมาณ 2 ล้านคน เช้าวันนี้ (20 มีนาคม 2551) ที่ศูนย์การประชุมอิมแพค เมืองทองธานี นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์ศุภชัย คุณารัตนพฤกษ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เป็นประธานในพิธีมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อาสาสมัครสาธารณสุขดีเด่น (อสม.) ระดับชาติปี 2550 จำนวน 13 คน และรางวัล อสม.ดีเด่น ประจำปี 2551 จำนวน 653 คน เนื่องในวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ ประจำปี 2551 ซึ่งตรงกับวันที่ 20 มีนาคมของทุกปี นายไชยา กล่าวว่า อสม.ถือเป็นบุคลากรอาสาที่มีคุณค่ายิ่งของกระทรวงสาธารณสุข ที่เข้ามาทำงานโดยไม่มีเงินเดือนค่าจ้างใดๆ ซึ่งการทำงานจะครบ 30 ปี ในเดือนกรกฎาคม 2551 นี้ ทำให้การสาธารณสุขไทยได้รับการชื่นชมและยอมรับในระดับนานาชาติ ว่าประสบผลสำเร็จในการใช้กลยุทธ์การสาธารณสุขมูลฐาน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพ ปัจจุบันมี อสม.กระจายทั่วประเทศจำนวน 832,123 คน เฉลี่ยอสม. 1 คน ดูแลชาวบ้านคนละ 10-15 หลังคาเรือน เพื่อตอบแทนคุณงามความดีและสร้างขวัญกำลังใจในการทำงาน กระทรวงสาธารณสุขได้คัดเลือกอสม.ที่มีผลงานดีเด่นเพื่อมอบรางวัล รวมทั้งขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่ง ดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นเหรียญเงิน ให้กับ อสม.ดีเด่นระดับชาติ และมอบรางวัล อสม.ดีเด่นระดับจังหวัด ระดับเขต ระดับภาค และระดับชาติ ในวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติทุกปี จนถึงวันนี้มีอสม.ได้รับรางวัลแล้ว 10,000 คน นายไชยากล่าวต่อว่า ขณะนี้ปัญหาสุขภาพของคนไทยมีแนวโน้มป่วยเป็นโรคเรื้อรัง ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง พิการจากโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต และมีผู้สูงอายุมากขึ้น คาดว่าจะมีผู้ป่วยดังกล่าวอยู่ในหมู่บ้าน ชุมชนทั่วประเทศ และอยู่ในสภาพที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ประมาณ 2 ล้านคน จะเป็นภาระในการดูแลของญาติและสร้างความทุกข์ทรมานกับผู้ป่วยเป็นอันมาก ในการผ่อนเบาภาระ คลี่คลายทุกข์ผู้เจ็บป่วยและญาติ ในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายพัฒนาบริการ โดยส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ช่วยเยี่ยมดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังถึงบ้าน และจะให้ อสม.เข้ามาช่วยดูแลร่วมด้วย เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลสุขภาพดีขึ้น ลดปัญหาเกิดโรคแทรกซ้อนซ้ำเติม โดยจะอบรมการดูแลผู้ป่วยให้อสม. มีการจัดทำบัตรบันทึกสุขภาพ ดูแลเรื่องอาหาร การออกกำลังกาย การสังเกตอาการผิดปกติ และส่งต่อเมื่อมีอาการรุนแรง โดยจัดสรรงบในการดูแลผู้ป่วยรายละ 30 บาทต่อเดือน จะเสนอครม.ของบประมาณ 720 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นกองทุนในแต่ละหมู่บ้านในเร็วๆ นี้ ทางด้านนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในด้านสวัสดิการของ อสม. กระทรวงสาธารณสุขจะเพิ่มสวัสดิการให้ครอบครัวของอสม. สามารถนอนห้องพิเศษโรงพยาบาลในสังกัดเมื่อเจ็บป่วยฟรี ซึ่งที่ผ่านมาเบิกได้เฉพาะตัวเท่านั้น โดยได้ตั้งคณะกรรมการศึกษารายละเอียด หลักเกณฑ์ ว่าจะให้สิทธิสำหรับ อสม.ที่มีอายุการทำงานกี่ปี เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ สำหรับ อสม.ที่เข้ารับเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่ง ดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นเหรียญเงินในปีนี้ มีจำนวน 13 คน ได้แก่ นายอาลีย๊ะ วาและ จ.นราธิวาส นายอับดุลรอแม กามางิน จ.ยะลา นางสาวเจ๊ะรอเม๊าะ เจ๊ะดือราแม จ.ปัตตานี นางประดับ สงคราม จ.สงขลา นางชาตรี พลหารเสน่ห์ จ.ขอนแก่น นางสุนิสา รัตนบุรี จ.นครศรีธรรมราช นางวันดี นวลอินทร์ จ.อำนาจเจริญ นางอรวรรณ แสงโทโพ จ.ขอนแก่น นางวันเพ็ญ มังคละ จ.น่าน นางสุพรรณี เจียมทวีผล จ.พะเยา นางวิลาวรรณ หม่อนกันทา จ.ตาก นายเข็มชาติ ชุมแวงปี ประธานสภา อบต.พังทุย อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น และนางอรวรรณ ศรีพจน์ สมาชิกสภา อบต.แม่เมาะ จ.ลำปาง อสม.ดีเด่นระดับชาติประจำปี 2551 จำนวน 11 สาขา 14 รางวัล จะได้รับแหวนทองคำลงยาฝังเพชร พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ ได้แก่ สาขาการแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน ได้แก่ นายผัด แคนจันทร์ จ.อุดรธานี สาขาการจัดการสุขภาพ ได้แก่ นายถั่น จุลนวล จ.สงขลา สาขาการบริการในศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน(ศสมช.) ได้แก่ นางสาวอารี ไชยวรรณ จ.สงขลา สาขาการแพทย์แผนไทยและภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพ ได้แก่ นางสาวสุติมา หมัดอะดัม จ.สงขลา สาขาการส่งเสริมสุขภาพ ได้แก่ นางจินตนา ปู่สังข์ จ.ตรัง สาขาการคุ้มครองผู้บริโภค ได้แก่ นางนภาพร กุลอ่อน จ.ลำพูน สาขาการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ ได้แก่ นางดวงจันทร์ เช้าวันดี จ.ขอนแก่น สาขาการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ ได้แก่ นางวรรณวดี เพชรเรือนทอง จ.นครศรีธรรมราช สาขาสุขภาพจิตชุมชนได้แก่ นางสุทัศน์ กล้าคง จ.พัทลุง สาขาเอดส์ในชุมชน ได้แก่ นางสมบูรณ์ ไชยสาส์น จ.อุดรธานี และสาขาการปฏิบัติงานดีเด่นในพื้นที่ที่มีภาวะวิกฤติ 4 รางวัล ได้แก่ 1.นายพือลี ดอเลาะ จ.นราธิวาส 2.นายอายุ กาซา จ.ปัตตานี 3.นายตอเฮ บูรอดียา จ.ยะลา และ 4.นายมะยูโซะ เจ๊ะเห็ง จ. สงขลา ส่วนอสม.ดีเด่นระดับภาค 30 คน อสม.ดีเด่นระดับจังหวัด 560 คน อสม.ดีเด่น กฟผ. 3 คน และอสม.ดีเด่น กทม. 60 คน จะได้รับรางวัลแหวนทองคำลงยาพร้อมใบประกาศเกียรติคุณ และอสม.ที่ทำงานครบ 10 ปี และ 20 ปี อีก 140,000 คน จะได้รับโล่พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ มีนาคม ****************************************** 20 มีนาคม 2551


   
   


View 7    20/03/2551   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ