กระทรวงสาธารณสุข เปิดแล้ว กองทุนช่วยเหลือแพทย์และประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากบริการทางการแพทย์ทั่วประเทศ ป้องกันปัญหาการฟ้องร้องบุคลากรที่ให้การรักษาพยาบาล โดย 2 รัฐมนตรีประเดิมเงินเข้าสมทบกองทุน 2 ล้านบาท และตั้งคณะกรรมการพิจารณาและตรวจสอบข้อเท็จจริง 1 ชุด เพื่อพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ตามหลักมนุษยธรรม ขณะนี้มีเงินกองทุนแล้วกว่า 5 ล้านบาท วันนี้ (27 มีนาคม 2551) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมผู้บริหารส่วนกลาง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศ เพื่อติดตามปัญหาอุปสรรค และการจัดบริการประชาชนในทุกจังหวัด นายไชยา กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาที่กระทรวงสาธารณสุขประสบหลักๆ คือ การขาดแคลนบุคลากร และปัญหาแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่อื่นๆ ถูกฟ้องร้องจากการปฏิบัติงานให้บริการรักษาพยาบาลผู้ป่วยมีมากขึ้น ในฐานะที่เคยเป็นคนไข้มาก่อน จึงเข้าใจและเห็นใจผู้ปฏิบัติงานเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากบุคลากรสาธารณสุขเป็นกลุ่มคนที่มีระดับสติปัญญาสูง มีจิตใจเมตตาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ดูแลผู้ป่วยเป็นพื้นฐาน จึงจำเป็นต้องได้รับการดูแล และหาแนวทางเพื่อป้องกันและแก้ไข มิให้เกิดปัญหาฟ้องร้อง โดยได้มอบนโยบายให้บุคลากรที่ให้บริการ ขอให้ปฏิบัติงานด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง และให้ใช้เทคนิคทางการทูต ใช้หลักนิติธรรมกับผู้รับบริการเป็นสำคัญ และให้ผู้ตรวจราชการทุกเขต จัดตั้งทีมงานในพื้นที่ เพื่อทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยเบื้องต้นอย่างรวดเร็วที่สุด ในการป้องกันปัญหาการฟ้องร้องจากการปฏิบัติงาน กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งกองทุนช่วยเหลือทางการแพทย์ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 โดยในวันนี้ได้มอบเงินสมทบกองทุนร่วมกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข คนละ 1 ล้านบาท นายณัฐพงศ์ ศีตวรรัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข 5 แสนบาท บริษัท พรพรหมเม็ททอล จำกัด (มหาชน) 5 แสนบาท และได้รับจากองค์การเภสัชกรรม 2 ล้านบาท และชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบริจาคอีก 5 แสนบาท ขณะนี้มีเงินกองทุนแล้ว 5 ล้าน 5 แสนบาท สามารถดำเนินการได้ทันที ทั้งนี้ ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง 1 ชุด ตามคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขที่ 203 /2551 มีทั้งหมด 25 คน มีปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยผู้รับบริการ เพื่อมิให้เกิดคดีความ และพิจารณาให้ความช่วยเหลือแก่ผู้รับบริการที่ได้รับความเสียหายจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นไปด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว ยุติธรรม ตามหลักมนุษยธรรม ไม่ว่าความเสียหายจะเกิดจากพยาธิสภาพของโรคตามปกติ ความเสียหายที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เกิดจากภาวะแทรกซ้อน หรือเกิดจากบริการทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานตามหลักของสภาวิชาชีพแล้วก็ตาม โดยกองทุนจะจ่ายเงินให้ผู้ได้รับความเสียหายตามสมควรและรวดเร็ว ด้านนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เปิดบัญชีธนาคารกรุงไทยเลขที่ 142-0-06-439-8 เพื่อรับบริจาคเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือทางการแพทย์ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบเงินเดือนที่ได้รับจากตำแหน่ง จำนวน 112,250 บาท เข้ากองทุนทุกเดือน ส่วนประชาชนทั่วไปสามารถร่วมบริจาคได้ ขณะเดียวกัน ได้เตรียมหารายได้อื่นเข้ากองทุนด้วย เช่น จัดการแข่งขันกอล์ฟการกุศลหรือกิจกรรมต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขได้เยียวยาผู้เสียหายไปหลายราย เป็นเงินหลายล้านบาทแล้ว ****************27 มีนาคม 2551


   
   


View 6    27/03/2551   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ