กระทรวงสาธารณสุขเผย เตรียมนำบทเรียนกรณีพบผู้ติดเชื้อชาวต่างชาติเข้าที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อพิจารณาปรับมาตรการ เฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค พร้อมชี้การลงทะเบียนเข้า-ออกสถานที่ผ่าน “ไทยชนะ” มีประโยชน์ทำให้ติดตามผู้ที่มีความเสี่ยงเข้าระบบเฝ้าระวังได้ทันท่วงที

         วันนี้ (15 กรกฎาคม 2563) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุขมีความห่วงใยประชาชนกรณีพบผู้ติดเชื้อชาวต่างชาติในประเทศ ทั้งใน จ.ระยอง และ ในกรุงเทพมหานคร ทำให้ประชาชนจำนวนมากเกิดความวิตกกังวล ซึ่งกรมควบคุมโรคและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งแก้ไขปัญหา ทำความเข้าใจประชาชน ลงพื้นที่สอบสวนโรค และเฝ้าระวัง ควบคุมป้องกันโรคอย่างรวดเร็วเพื่อหากลุ่มเสี่ยงให้ครอบคลุมมากที่สุด เพื่อให้คนไทยเกิดความปลอดภัย และจะนำบทเรียนนี้เข้าสู่ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ในวันพรุ่งนี้ (16 กรกฎาคม 2563) เพื่อพิจารณา และเสนอมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค ที่เข้มข้นยิ่งขึ้นเพื่อให้เกิดความสบายใจต่อประชาชน

          ด้าน ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การที่กระทรวงสาธารณสุขสามารถทำการสอบสวน และติดตามผู้สัมผัสมาเข้าระบบการเฝ้าระวังและตรวจหาเชื้อได้อย่างรวดเร็วนั้น มาจากระบบข้อมูล “ไทยชนะ” ที่ประชาชนได้ทำการลงทะเบียนเข้า-ออกไว้ ทำให้เราสามารถติดตามกลุ่มผู้สัมผัสที่ใช้บริการในห้างสรรพสินค้า ที่ จ.ระยอง ในช่วงระยะเวลา 11.25- 14.56 น. ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2563 ได้จำนวน 394 รายชื่อ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าข้อมูลจากระบบ “ไทยชนะ” สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง โดยขณะนี้มีกลุ่มเสี่ยงต่ำที่ได้ตรวจหาเชื้อจากรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัยพระราชทานแล้วจำนวน 1,333 ราย และในส่วนของกรุงเทพมหานคร กรณีเด็กหญิง 9 ขวบ ที่ติดตามคณะทูต มีผู้ที่พักอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมเดียวกันได้รับการตรวจหาเชื้อจากรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัยพระราชทานแล้ว 266 ราย อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่ากระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการอย่างโปร่งใส ไม่ปกปิด รวดเร็ว และจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และภาคเศรษฐกิจให้กลับมาสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

****************************** 15 กรกฎาคม 2563

***************************************

 



   
   


View 1189    15/07/2563   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ