ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยประเทศไทยมีความพร้อมรับมือหากเกิดการระบาดระลอก 2 ย้ำความร่วมมือประชาชน อดทน มีวินัยป้องกันตนเอง ล้างมือ สวมหน้ากาก รักษาระยะห่าง ช่วยป้องกันโควิดระลอก 2 ได้

          วันนี้ (21 สิงหาคม 2563) ที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี  ศาสตราจารย์นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยสามารถควบคุมการระบาดของโรคโควิด 19 ได้ดีมาก เป็น 1 ใน 7 ประเทศที่องค์การอนามัยโลกให้ความชื่นชมการควบคุมการระบาดแต่ละประเทศมีนโยบายการบริหารจัดการ การควบคุมโรคไม่เหมือนกัน ประเทศไทยมีความร่วมมือที่ดีจากทุกภาคส่วนทำให้ควบคุมโรค ทำให้ไม่พบการติดเชื้อภายในประเทศนานกว่า 85 วันแล้ว ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พบมาจากต่างประเทศและกักตัวสังเกตอาการใน State quarantine อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีโอกาสพบการระบาดได้ เนื่องจากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั่วโลกยังมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ย 4 วัน ต่อ 1 ล้านราย และคาดการณ์ว่าภายในสิ้นปี 2563 อาจพบผู้ป่วยทั่วโลกสูงถึง 50 ล้านคน และมีเสียชีวิตถึง 1.5 ล้านคน แต่ขณะนี้ระบบสาธารณสุขของเรามีความพร้อม จากประสบการณ์ที่เคยมีผู้ติดเชื้อสูงถึงวันละ 100 กว่าราย ก็สามารถรับมือได้ ที่สำคัญผู้ติดเชื้อ 100 คน จะมีผู้ที่มีอาการมากเพียง 20 คน ในจำนวนนี้ มีเพียง 3-5 คนที่มีอาการวิกฤต ต้องเข้า ICU นอกจากนี้ ต่อไปยังมียารักษาโรค และวัคซีนที่มีอย่างน้อย 6 ชนิดจากต่างประเทศ อยู่ในขั้นตอนการทดลองระยะ 3 คาดว่าจะสามารถผลิตได้ในสิ้นปีนี้

          สำหรับกรณีพบหญิงไทยเดินทางจากต่างประเทศ และตรวจพบเชื้อหลังกลับเข้าไทย 75 วัน และ 50 วันนั้น เป็นร่องรอยที่บ่งบอกว่าเคยติดเชื้อจริง แต่ที่พบเป็นชิ้นส่วนไวรัสที่มีปริมาณน้อยมาก ไม่สามารถแพร่เชื้อได้ แต่เพื่อความปลอดภัยกระทรวสาธารณสุขได้ส่งทีมสอบสวนผู้สัมผัสอย่างรวดเร็ว ผลตรวจขณะนี้ไม่พบผู้ติดเชื้อ  เรามีหลักฐานยืนยันในผู้ที่หายป่วยตั้งแต่ 35 วัน จนถึง 105 วัน และมาบริจาคพลาสมาให้กับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย และการศึกษาร่วมกับกทม. จำนวน 217 คน พบว่า 13 คน ตรวจพบชิ้นส่วนไวรัสและผู้ที่สัมผัสกับคนเหล่านี้ ไม่มีใครติดเชื้อเลย และขอเชิญชวนให้ผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับจากต่างประเทศที่หายแล้ว มาร่วมกันบริจาคพลาสมา ขณะนี้มีแล้ว 300 หน่วย รักษาได้ร่วม 300 คน เก็บได้นาน 1 ปี จะช่วยลดอัตราการตายได้หากให้ตั้งแต่ระยะแรก

          ศาสตราจารย์ นายแพทย์ยงกล่าวต่อว่า การจะพูดว่าระบาดระลอก 2 ต้องมีการแพร่กระจายเชื้อภายในประเทศ และติดเชื้อมากกว่า 3 คนขึ้นไปและเป็นกลุ่มก้อน แต่หากมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 1 ราย จะไม่ถือว่าเป็นการระบาด เป็นเพียงการพบผู้ป่วยรายใหม่เท่านั้น สำหรับประเด็นการกลายพันธุ์ เป็นเรื่องของวิวัฒนาการและความเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด รวมถึงเชื้อโควิด 19 ด้วย ซึ่งสายพันธุ์ไม่ได้บ่งบอกถึงความรุนแรงของโรค และไม่ได้บอกว่าวัคซีนจะช่วยป้องกันไม่ได้ แต่มีประโยชน์ในทางระบาดวิทยาที่จะบอกถึงต้นตอถิ่นกำเนิดว่ามาจากแหล่งเดียวกันหรือไม่

          “การต่อสู้ครั้งนี้จะประสบความสำเร็จดีมาก ทุกคนต้องช่วยกัน ทั้งรัฐ เอกชน ประชาชนต้องรักษาระเบียบวินัย รณรงค์ให้ล้างมืออย่างน้อย 20 วินาที หรือการใช้เจลแอลกอฮอล์  ป้องกันเขาป้องกันเรา ด้วยการสวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย เมื่อออกจากบ้านและเข้าในที่ชุมชน รวมถึงการรักษาระยะห่าง ไม่อยากเห็นการรวมคนหมู่มาก หากทำได้จะช่วยลดการแพร่กระจายและลดการแพร่ระบาดของโรคได้ ขอให้อดทนถ้าคนไทยร่วมมือกัน เราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน” ศาสตราจารย์ นายแพทย์ยงกล่าว

   ***************************   21 สิงหาคม 2563



   
   


View 3157    21/08/2563   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ