ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปาฐกถาพิเศษอนาคตสาธารณสุขไทยหลังโควิด 19 ในพิธีปิดการประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุข เน้นเพิ่มศักยภาพการควบคุมป้องกันโรค ทั้งการตรวจวินิจฉัย รักษาพยาบาล จัดการความเสี่ยง ยกระดับป้องกันการติดเชื้อภายในโรงพยาบาล เพิ่มทีมสอบสวนโรค 3-5 เท่า แนะคงมาตรการป้องกันโรค ช่วยควบคุมการระบาดระลอก 2 ระบบสาธารณสุขไทยสามารถรองรับผู้ติดเชื้อได้ 50–100 รายต่อวัน

          วันนี้ (10 กันยายน 2563) ที่โรงแรมริชมอนด์ จังหวัดนนทบุรี นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “อนาคตสาธารณสุขไทย หลังโควิด 19” ในพิธีปิดการประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุข ประจำปี 2563 ว่า ประเทศไทยมีการเตรียมความพร้อมรับมือกับโรคระบาดมาตั้งแต่กรณีเกิดโรคซาร์ส ทำให้เมื่อเกิดโรคโควิด 19 เราบริหารจัดการสถานการณ์ด้วยการบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนรวมถึงประชาชน อย่างไรก็ตาม อย่าเพิ่งคิดว่าเราปลอดภัย เพราะอาจเกิดการระบาดระลอก 2 ได้เสมอ เนื่องจากอาจมีผู้ติดเชื้ออยู่ในประเทศ และการลักลอบเข้าประเทศตามแนวชายแดน แต่กระทรวงสาธารณสุขพร้อมจะดูแลพี่น้องคนไทยให้ปลอดภัย มีการตั้งปราการป้องกันผู้ป่วยจากต่างประเทศ มี state quarantine ดูแลผู้เข้าประเทศ ขณะที่กรมควบคุมโรคได้กระจายทีมลงไปตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อในประเทศ และผู้ป่วยจากต่างประเทศที่อาจมีการลักลอบเข้าประเทศ

          นายแพทย์สุขุมกล่าวว่า ประเด็นสำคัญคือ ยังต้องคงมาตรการด้านสาธารณสุขและชีวิตวิถีใหม่ สวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง ลดความแออัด ซึ่งจะทำให้สามารถควบคุมการระบาดได้ หากมีผู้ป่วยรายใหม่ไม่เกินวันละ 50-100 รายศักยภาพของระบบสาธารณสุขจะสามารถรองรับได้ รวมถึงต้องมีการจัดการความเสี่ยง เพื่อให้สถานการณ์กลับมาอยู่ในระดับที่ไม่มีผู้ป่วยหรือมีผู้ป่วยในวงจำกัด โดยต้องเน้นการดำเนินงานทั้งการป้องกัน ค้นหา รักษา และควบคุม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่หากติดเชื้อจะมีอาการรุนแรง เพิ่มศักยภาพให้ตรวจวินิจฉัยและรักษาพยาบาลได้มากขึ้น เพิ่มจำนวนทีมสอบสวนโรคอีก 3-5 เท่า ซักซ้อมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน เพื่อตอบโต้ภาวะฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว พัฒนาระบบบัญชาการเหตุการณ์ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ระบบการจัดการข่าวสารและการสื่อสารความเสี่ยง ยกระดับการป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล มีระบบสำรองเวชภัณฑ์อย่างเหมาะสม การใช้อุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม ออกแบบแผนกหอผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยนอก (OPD) เพื่อลดโอกาสสัมผัสเชื้อ ลดความแออัดในโรงพยาบาล นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเสริมศักยภาพ และยกระดับห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาล

          ทั้งนี้ ภายในงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขยังได้มอบโล่รางวัลผลงานวิชาการ R2R ดีเด่น หรือการพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย จำนวน 55 รางวัล มอบโล่รางวัลบูธนิทรรศการดีเด่นระดับกรมและเขตสุขภาพ 6 รางวัล มอบโล่รางวัลนวัตกรรม Green & Clean Hospital ระดับประเทศ จำนวน 11 รางวัล โดยการประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุขตั้งแต่วันที่ 8-10 กันยายน 2563 มีผู้เข้าร่วมงานรวม 2,500 คน


 ******************************  10 กันยายน 2563



   
   


View 699    10/09/2563   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ