กระทรวงสาธารณสุข จัดบริการตติยภูมิ โรคหัวใจ มะเร็ง อุบัติเหตุ ทารกแรกเกิด ปลูกถ่ายอวัยวะ กระจายทุกภูมิภาค เพิ่มการเข้าถึงบริการครบวงจร ประชาชนรักษาใกล้บ้าน ไม่ต้องเดินทางไปรักษาใน กทม. หรือโรงเรียนแพทย์ เตรียมก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอก รพ.สวรรค์ประชารักษ์แห่งใหม่ (เขาเขียว) รองรับบริการที่เพิ่มขึ้น

       นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานพิธียกเสาเอกอาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์แห่งใหม่ (เขาเขียว) ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้วางแผนการพัฒนาศูนย์ความเป็นเลิศในโรคที่เป็นปัญหาสาธารณสุขให้กระจายในโรงพยาบาลศูนย์ทุกภูมิภาค บริการครบวงจร ประชาชนเข้าถึงบริการรักษาพยาบาลใกล้บ้าน เป็นการเพิ่มศักยภาพดูแลประชาชน อำนวยความสะดวก ไม่ต้องเดินทางไปรักษาโรงพยาบาลในกทม. หรือโรงเรียนแพทย์ รวมทั้งลดเหลื่อมล้ำ ลดแออัด ลดรอคอย โดยเขตสุขภาพที่ 3 ได้พัฒนาโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลศูนย์ขนาดใหญ่ ให้เป็นศูนย์เชี่ยวชาญด้านหัวใจและหลอดเลือด มะเร็ง อุบัติเหตุ ทารกแรกเกิด และปลูกถ่ายอวัยวะ ของภาคเหนือตอนล่างภายในปี 2565 ขณะนี้สามารถดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งอย่างครบวงจร ทั้งการผ่าตัด เคมีบำบัด และการฉายรังสีแบบประคับประคองเพื่อบรรเทาอาการในผู้ป่วยมะเร็งที่มีการแพร่กระจาย รวมทั้งเปิดให้บริการสวนหัวใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยลดการส่งต่อนอกเขต ทำให้ประชาชนในในเขตสุขภาพที่ 3 ได้แก่ นครสวรรค์ กำแพงเพชร อุทัยธานี ชัยนาท พิจิตร และจังหวัดใกล้เคียงได้รับการรักษาสะดวก รวดเร็วขึ้น

         ในการก่อสร้างโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ (เขาเขียว) แห่งใหม่ ขนาด 520 เตียง ได้รับบริจาคที่ดินจำนวน 197 ไร่ จากกองทัพภาคที่ 3 มณฑลทหารบกที่ 31 ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ อาคารรักษาพยาบาลได้แก่ อาคารผู้ป่วยนอก งานอุบัติเหตุ ห้องคลอด ห้องผ่าตัด ห้องปฏิบัติการ ห้องเอกซเรย์  อาคารสนับสนุนบริการ และส่วนอาคารบ้านพักเจ้าหน้าที่ โดยเริ่มให้บริการฉายรังสีแบบประคับประคองเพื่อบรรเทาอาการในผู้ป่วยมะเร็งที่มีการแพร่กระจายรายแรก เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2559  และให้บริการเต็มรูปแบบเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.2560 รวมทั้งวางแผนเปิดให้บริการอื่น ๆ อาทิ ทันตกรรมและกายภาพบำบัด บริการรักษามะเร็งแบบผู้ป่วยใน ผู้ป่วยในอายุรกรรมและศัลยกรรม สำหรับอาคารผู้ป่วยนอก 5 ชั้น ได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารจากกระทรวงสาธารณสุขจำนวน 350 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 605 วัน คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565

  *********************************  22 กันยายน 2563

***************************

 

 



   
   


View 1132    22/09/2563   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ