วันนี้ ( 14 เมษายน 2551 ) เวลา 14.00 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วย พระเจ้าวรวงค์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นองค์ประธาน “งานวันครอบครัวอบอุ่นครั้งที่ 3” เนื่องในวันครอบครัวแห่งชาติ ณ บริเวณสนามกีฬาพื้นที่โครงการในพระองค์ 904 กรุงเทพมหานคร ดำเนินการร่วมกัน 3 กระทรวงประกอบด้วย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีนายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขเฝ้ารับเสด็จ นายไชยา กล่าวว่า ครอบครัวเป็นสถาบันแรกของมนุษย์ มีความสำคัญในการหล่อหลอมพฤติกรรมของสมาชิก เป็นจุดเริ่มต้นของความรัก ความผูกพันที่ใหญ่ที่สุด สังคมดั้งเดิมของไทยจะอยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่ หรือที่เรียกว่าครอบครัวขยาย โดยมี ปู่ ยา ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา พ่อ แม่ ลูก พี่ น้อง อยู่ด้วยกัน ทำให้เกิดความอบอุ่น มีสัมพันธ์แนบแน่นในครอบครัว มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีจิตใจดี คิดดี เนื่องจากสังคมปัจจุบันที่เปลี่ยนไป พ่อแม่ทำงาน ไม่มีเวลาให้ลูก ทำให้เด็กขาดการดูแลเอาใจใส่เท่าที่ควรและขาดความอบอุ่น เราควรหันมาให้ความสนใจในเรื่องนี้ให้มากขึ้น โดยผลสำรวจล่าสุดพบว่าขณะนี้ประเทศไทยเหลือครอบครัวขยายเพียง 6 ล้านครอบครัว หรือมีประมาณ 1 ใน 3 ของครอบครัวทั่วประเทศเท่านั้น พระเจ้าวรวงค์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร องค์ประธานโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว ทรงมีเป้าหมายสรรค์สร้างสถาบันครอบครัวให้อบอุ่น สนับสนุนให้สมาชิกในครอบครัวคือพ่อ แม่ ลูก ได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เด็กได้รับการเลี้ยงดูอย่างถูกต้อง ซึ่งความอบอุ่นในครอบครัว จะทำให้เด็กอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีจิตใจดี เจริญเติบโตและมีพัฒนาการสมวัย เนื่องในวันครอบครัวแห่งชาติซึ่งตรงกับวันที่ 14 เมษายนทุกปี ทรงมีพระนโยบายให้ส่วนราชการในพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร ร่วมกับส่วนราชการภายนอก จัดงานวันครอบครัวอบอุ่นขึ้น ในพื้นที่โครงการส่วนพระองค์ 904 ในส่วนกระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมจัดงานวันครอบครัวอบอุ่น ภายใต้แนวคิด “ศูนย์สาน 3 วัย สายใยรักแห่งครอบครัว กินอยู่อย่างไทยในภาวะโลกร้อน” ตามวิถีชีวิตภาคใต้ ฟื้นความอบอุ่นครอบครัวขยาย โดยศูนย์สาน 3 วัย ประกอบด้วยปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ และลูก อยู่ด้วยกัน จำลองเอาวิถีชีวิตครอบครัวชาวไทยภาคใต้จากจังหวัดยะลา ที่นับถือศาสนาอิสลามและพุทธอยู่ร่วมกันในการดูแลเด็ก เช่น พ่อ แม่ ไกวเปลร้องเพลงกล่อมลูก ปู่ ย่า ตา ยาย ทำของเล่นให้หลาน พี่สอนน้องคนเล็กหัดเดินด้วย “กระแตเวียน” จำลองการละเล่น เช่น การเล่นน้ำสงกรานต์ การเล่นตกปลานำโชค การแสดง เช่น ลิเกกูรู การรำรองเง็ง หนังตะลุง ด้าน นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การที่พ่อ แม่ ร้องเพลงกล่อมลูก มีผลต่อเด็กได้เรียนรู้ภาษาในการสื่อสาร การร้องเพลงที่ไพเราะ หวานซึ้ง จะทำให้เด็กมีสมาธิในการฟัง อารมณ์เย็น มีความสุขและอบอุ่นที่พ่อแม่ให้ความรักเอาใจใส่ การเล่นของเล่นต่างๆ จะช่วยให้เด็กฝึกทักษะที่จะอยู่ร่วมกันในสังคม สมองได้ฝึกคิด เซลส์ประสาทและสมองจะแตกขยาย ซึ่งจะส่งผลให้เด็กคิดเป็น ทำเป็น วางแผนปฎิบัติเป็น แก้ปัญหาได้ และสามารถอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข


   
   


View 6    14/04/2551   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ