สธ.จัดระเบียบหน่วยกู้ชีพ คาด 7 กค. 51 มีผล หากไม่ปฎิบัติตามจะถอนทะเบียน ปรับ 1 แสนบาท

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เร่งนโยบายจัดระเบียนหน่วยกู้ชีพฉุกเฉิน จัดโซนรับผิดชอบชัดเจน หน่วยใดไม่ปฏิบัติตามจะถูกถอนทะเบียน และมีโทษปรับ 1 แสนบาท ตามพ.ร.บ.การแพทย์ฉุกเฉินปี 2551 คาดจะออกระเบียบได้หลัง 1 กรกฎาคม 2551 ชี้การทำงานของหน่วยแพทย์กู้ชีพฉุกเฉินในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ได้ผลดีมาก ประชาชนโทรตรงทาง 1669 เฉลี่ยวันละกว่า 1,300 สาย ส่งผลดีต่อผู้บาดเจ็บ-ผู้ป่วย อาการรุนแรงหรือความเสี่ยงพิการลดลงเห็นได้ชัด นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีที่หน่วยกู้ชีพภาคเอกชนเปิดศึกแย่งคนเจ็บข้ามถิ่นเพื่อส่งโรงพยาบาล และใช้อาวุธปืนยิงกันจนเสียชีวิต เหตุเกิดวานนี้ที่จังหวัดสิงห์บุรี และอีกรายเกิดที่เขตประเวศ กทม. แย่งคนเจ็บส่งโรงพยาบาลเช่นเดียวกันว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้เร่งบังคับใช้พระราชบัญญัติการแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2551 ที่ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2551 เป็นต้นมา ซึ่งหลังจากผ่านบทเฉพาะกาล 120 วัน คือวันที่ 7 กรกฎาคม 2551 จะมีผลมากขึ้น โดยเฉพาะการจัดระเบียบแบ่งเขตการรับผิดชอบของหน่วยกู้ชีพ ช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยฉุกเฉิน จะทำให้การทะเลาะเบาะแว้ง แย่งคนเจ็บคนป่วย ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมือง มีการทำร้ายกันทั้งใช้อาวุธและไม่ใช้อาวุธ จะถูกกวดขันและประเมินคุณภาพ พฤติกรรมการบริการ อันเป็นที่ศรัทธาของสังคมอย่างใกล้ชิด เพราะถือเป็นรัฐสวัสดิการบนความเป็นความตายของผู้ป่วย หากหน่วยกู้ชีพหรือพนักงานกู้ชีพใดไม่ปฏิบัติตาม จะเพิกถอนทะเบียนทันที และจะมีโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท มั่นใจว่าหากกฎหมายนี้มีผลใช้จริงจังปัญหาเหล่านี้จะหมดไป นายไชยา กล่าวว่า ผลการช่วยชีวิตประชาชนที่เจ็บป่วยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่าตลอดวันที่ 15 เมษายน 2551 หน่วยแพทย์กู้ชีพได้ออกปฎิบัติการ 2,513 ครั้ง เฉลี่ยนาทีละเกือบ 2 ทีม ในจำนวนนี้เป็นผู้บาดเจ็บเฉพาะจากอุบัติเหตุจราจร 1,026 ครั้ง ที่เหลือป่วยจากสาเหตุอื่นได้แก่โรคประจำตัว พลัดตกหกล้ม จมน้ำ ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่ถูกทำร้ายร่างกายจากเหตุทะเลาะวิวาทกัน 192 ครั้ง โดยตลอดช่วง 5 วันมานี้ มีประชาชนโทรแจ้งขอความช่วยเหลือตรงทางหมายเลข 1669 รวม 6,791 ครั้ง เฉลี่ยวันละ1,358 สาย เพิ่มขึ้นจากช่วงปีที่แล้วเกือบ 2 เท่าตัว ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้เจ็บป่วย จะได้รับการช่วยชีวิตจากบุคลากรทางการแพทย์มืออาชีพอย่างรวดเร็วภายใน 10- 15 นาที สามารถป้องกันไม่ให้เกิดอาการรุนแรงและลดภาวะแทรกซ้อน ที่สำคัญคือความพิการจากการช่วยเหลือที่ไม่ถูกวิธีลงได้ ทางด้านนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งในวันนี้ได้ออกตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลต่างๆในภาคเหนือ พร้อมคณะประกอบด้วยนายแพทย์สถาพร วงษ์เจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ได้ตรวจเยี่ยมที่ ร.พ.พุทธชินราชพิษณุโลก ร.พ.อุตรดิตถ์ พบว่า อาการของผู้เจ็บป่วยที่นอนรักษาตัวในโรงพยาบาลขณะนี้ไม่รุนแรงมาก เนื่องจากได้รับการดูแลจากบุคลากรทางการแพทย์ทั้งเรื่องการหายใจ การห้ามเลือด การขนย้ายเป็นอย่างดีมาตั้งแต่ต้น โรงพยาบาลทุกแห่งรับมือได้ โดยเฉพาะที่อุตรดิตถ์พบว่าในรอบ 5 วันมานี้ประชาชนถูกสุนัขกัด 23 ราย แพทย์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้แล้ว ตลอด 5 วันนี้หน่วยกู้ชีพทั่วประเทศนำผู้เจ็บป่วยส่งโรงพยาบาลได้ถึงร้อยละ 91 โดยมีผู้บาดเจ็บเฉพาะจากอุบัติเหตุจราจรรักษาตัวในโรงพยาบาลทั่วประเทศขณะนี้ 6,349 ราย