รายงานข่าวกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

ประจำวันที่ 25 กันยายน 2563

 

          สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยวันนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย เป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศ (ผู้ติดเชื้อรายใหม่จากสหรัฐเอมริกา 1 ราย  และผู้ติดเชื้อรายเก่าจากสิงคโปร์ และคูเวต ประเทศละ 1 ราย) ทุกรายเข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 7 ราย ทำให้มีผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 3,360 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 95.48 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 100 ราย หรือร้อยละ 2.84 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 59 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,519 ราย

          สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ เป็นผู้ที่เดินทางมาจาก

          สหรัฐอเมริกา 1 ราย เป็นหญิง อายุ 39 ปี สัญชาติไทย อาชีพแม่บ้าน เดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 19 กันยายน 2563 เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ที่จังหวัดชลบุรี พบเชื้อจากการตรวจครั้งแรก วันที่ 23 กันยายน 2563 (วันที่ 4 ของการกักตัว) ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดชลบุรี

          สิงคโปร์ 1 ราย เป็นชาย อายุ 42 ปี สัญชาติไทย อาชีพรับจ้าง เดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 18 กันยายน 2563 เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ที่จังหวัดชลบุรี พบเชื้อจากการตรวจครั้งแรก วันที่ 21 กันยายน 2563 (วันที่ 3 ของการกักตัว) ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดชลบุรี มีประวัติเคยติดเชื้อโควิด 19 ขณะอยู่ที่สิงคโปร์ แต่มีเอกสารจากสิงคโปร์ระบุว่าพ้นระยะแพร่เชื้อแล้ว เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2563

          คูเวต 1 ราย เป็นชาย อายุ 58 ปี สัญชาติไทย อาชีพรับจ้างทั่วไป เดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 22 กันยายน 2563 เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ที่จังหวัดชลบุรี พบเชื้อจากการตรวจครั้งแรกวันที่ 22 กันยายน 2563 (วันแรกของการกักตัว) ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดชลบุรี มีประวัติเคยติดเชื้อโควิด จากคูเวต พักรักษาตัวอยู่ที่รพ.และแคมป์คนงาน ก่อนเดินทางกลับไทย

          นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลกรายงานวันนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 314,855 ราย  ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 32,408,504 ราย  โดย ประเทศที่มีการติดเชื้อสะสมสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 7,185,471 ราย อินเดีย 5,816,103 ราย  บราซิล 4,659,909 ราย

          สำหรับการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคตามพื้นที่แนวชายแดน รัฐบาลไทยได้ให้หน่วยงานด้านความมั่นคง ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว (อสต.) ร่วมกันเฝ้าระวังป้องกันโรคในพื้นที่ชายแดนอย่างเข้มข้น รวมถึงในจังหวัดที่มีโรงงานอุตสาหกรรม เฝ้าระวัง ป้องกัน แรงงานที่ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ไม่ได้เข้าสู่ระบบการคัดกรอง ควบคุมโรคตามมาตรการอาจนำเชื้อมาแพร่ให้กับคนในชุมชนได้ จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ไม่สนับสนุนการจ้างงานแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมายเข้าทำงาน โดยไม่ผ่านมาตรการเฝ้าระวังโรค อาจจะเป็นเหตุให้เกิดการแพร่เชื้อได้

          อีกหนึ่งประเด็นน็นที่น่าสนใจนที่น่าสนใจ กรณีพบการแพร่ระบาดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีสาเหตุจากการปาร์ตี้ของนักศึกษา ทำให้นักศึกษา 2,500 คน ต้องอยู่ภายใต้มาตรการกักกันโรค และทางการท้องถิ่นได้ออกคำสั่งปิดสถานบันเทิงทุกแห่งในแคว้นโวด์และบังคับสวมหน้ากากในทุกสถานที่สาธารณะ ซึ่งประเทศไทยเพิ่งเกิดการรวมกลุ่มชุมนุมทางการเมือง เมื่อวันที่ 19-20 กันยายน ที่ผ่านมา ถือว่ามีความเสี่ยงที่อาจเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้ โดยสัดส่วนผู้ติดเชื้อสะสมของประเทศไทยตั้งแต่เริ่มมีรายงานโควิด 19 พบว่ากลุ่มวัยรุ่น-วัยทำงาน ช่วงอายุ 20-39 ปี มีการติดเชื้อรวมกันมากกว่าร้อยละ 50 และส่วนมากเป็นผู้ที่ไม่แสดงอาการ กระทรวงสาธารณสุขมีความห่วงใย ขอให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมในวันดังกล่าวเฝ้าระวังสังเกตอาการตนเองจนครบ 14 วัน หากมีอาการ ไข้ ไอเจ็บคอ น้ำมูก การรับรส/ กลิ่นลดลง อย่าปล่อยไว้ให้รีบไปรับการตรวจวินิจฉัยที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที และหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เนื่องจากกลุ่มนี้หากป่วยจะมีอาการรุนแรงและอาจเสียชีวิตได้

         และขอให้ผู้ที่จัดการประชุม สัมมนา หรือจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคน ให้เข้มงวดมาตรการ โดยทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา จัดสถานที่เว้นระยะห่าง จัดจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ส่วนผู้ร่วมงาน ขอให้ความร่วมมือสวมหน้ากากอนามัย เลี่ยงการตะโกนเนื่องจากอาจเกิดฝอยละอองน้ำลาย น้ำมูกกระจายและสัมผัสสู่ผู้อื่นได้ และลงทะเบียนเข้าออกสถานที่ที่ใช้บริการผ่าน “ไทยชนะ” ทุกครั้ง เพราะหากพบผู้ติดเชื้อจะง่ายต่อการติดตามผู้สัมผัสมาตรวจและเฝ้าระวังโรคต่อไป ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของตนเอง สมาชิกในครอบครัว คนรอบข้าง ชุมชน สังคม และคนในประเทศไทย

 ****************************************  25 กันยายน 2563

***********************************



   
   


View 1342    25/09/2563   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ