กระทรวงสาธารณสุข ให้การดูแลผู้สัมผัสสารเคมีรั่วจากร้านรับซื้อของเก่า 8 ราย ที่ อ.บางพลี  จ.สมุทรปราการ สำหรับผู้สัมผัสที่เป็นเด็กชายอายุ 12 ปี ส่งต่อรักษาที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี คาดว่าเป็นสารคลอรีน

      วันนี้ (28 กันยายน 2563) นายแพทย์สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 6 ให้สัมภาษณ์กรณีเหตุการณ์สารเคมีรั่วไหล จากร้านรับซื้อของเก่า ใน ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ สาเหตุจากการใช้เครื่องมือเจาะถังเหล็ก มีสารเคมีรั่วไหล ทำให้ผู้สัมผัสมีอาการแสบจมูก แสบตา แสบคอ หายใจติดขัด สำลักควัน โดยเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย ได้ฉีดพ่นน้ำบริเวณที่เกิดเหตุและพื้นที่โดยรอบ พร้อมกั้นพื้นที่ และนำผู้สัมผัสสารเคมี ส่งโรงพยาบาลบางพลี จำนวน 8 ราย และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้ค้นหาผู้สัมผัสสารเคมีเพิ่มและแจกหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนในชุมชน

       นายแพทย์สุเทพกล่าวว่า สำหรับผู้สัมผัส สารเคมี 8 ราย ประกอบด้วย รายแรกเป็นชายอายุ 46 ปี ผู้ตัดถังเหล็ก ส่งต่อโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 ตามสิทธิ์ประกันสังคม อีก 7 ราย เป็นหญิง 3 ราย ชาย 2 ราย และเด็ก2 ราย ซึ่งเป็นผู้ที่อาศัยอยู่บ้านติดกับร้านขายของเก่าที่เกิดเหตุ ทั้งหมดรู้สึกตัวดี มีอาการแสบจมูก แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก แพทย์ให้ออกซิเจนและรับไว้สังเกตอาการในโรงพยาบาลบางพลี สำหรับเด็ก 2 ราย เป็นเด็กชาย อายุ 12 ปี มีอาการหายใจเหนื่อย แน่นหน้าอก เจ็บคอ ไอ แรกรับผู้ป่วยรู้สึกตัวดี แพทย์ใส่ท่อหายใจ และส่งตัวไปรักษาที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี และเด็กหญิงเป็นเด็กเล็กอายุ 2 ปี แรกรับรู้ตัวดี แพทย์ให้ออกซิเจน ล้างตัวและรับตัวไว้สังเกตอาการ

       นายแพทย์สุเทพกล่าวต่อว่า จากการประเมินความเสี่ยงเบื้องต้น  พบว่ามีความเสี่ยงระดับสูง เนื่องจากสารเคมีที่รั่วไหล มีการฟุ้งกระจายบริเวณกว้าง มีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ โดยได้ประสานงานกับศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี  ซึ่งได้ให้คำแนะนำแนวทางการดูแลรักษาผู้สัมผัสสารเคมี และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ เก็บตัวอย่างสารพิษในสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่และอสม. ลงพื้นที่แนะนำประชาชนรอบ ๆ พื้นที่เกิดเหตุ ให้สวมหน้ากากอนามัยและสังเกตอาการผิดทางระบบทางเดินหายใจ  คาดว่าจะเป็นสารคลอรีน อย่างไรก็ตามจะได้ลงพื้นที่เฝ้าระวังประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

**************************  28 กันยายน 2563



   
   


View 1245    28/09/2563   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ