“สธ. – ก.ท่องเที่ยวฯ” เปิดงาน "ท่องเที่ยวสุขภาพดี รวมพล 100 ร้าน มาตรฐานสาธารณสุข ล้านนา R1” ยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพเมืองเหนือสู่การท่องเที่ยวสุขภาพระดับโลก
- สำนักสารนิเทศ
- 98 View
- อ่านต่อ
กระทรวงสาธารณสุข ยกย่อง อสม. เป็นผู้เสียสละ สร้างชื่อเสียงระดับอินเตอร์ รุกให้เป็นหมอประจำครอบครัว ประชาชนไว้ใจทำตามคำแนะนำด้านสุขภาพป้องกันโควิด 19 จากการเปิดประเทศเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
วันนี้ (30 กันยายน 2563) ที่ จังหวัดอุทัยธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เปิดการประชุมวิชาการอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ภาคเหนือ กับ “อสม. เจ้าหน้าที่ สามัคคี ต้านโควิด-19”
นายอนุทินกล่าวว่า อสม.ช่วยทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรสาธารณสุขในการเป็นด่านหน้าช่วยเฝ้าระวัง คัดกรองโรคโควิด 19 ทำให้ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ ส่งผลให้ อสม.เป็นชื่ออินเตอร์ระดับโลก สร้างเกียรติยศ ชื่อเสียงให้ประเทศไทยว่า มีระบบสาธารณสุขที่ดีที่สุด ซึ่งประเทศใดที่ได้รับการยกย่องเชื่อถือว่ามีระบบสาธารณสุขที่ดี ทำให้ได้รับความสนใจจากต่างชาติในการมาท่องเที่ยว ลงทุน และมาพำนักถิ่นฐาน
ทั้งนี้ ขอให้ อสม.รักษาเกียรติยศ ชื่อเสียงต้นทุนของความน่าเชื่อถือนี้ไว้ ไม่ใช่แค่เรื่องของความภาคภูมิใจ แต่เราต้องการให้ อสม.เป็นที่เชื่อถือในประชาชน ในการเป็นหมอประจำครอบครัว เมื่อพูดเรื่องสุขภาพแล้วประชาชนทำตาม เช่น การสร้างกระแสให้คนสวมหน้ากาก การล้างมือ การเว้นระยะห่าง เพื่อต่อสู้กับโรคโควิด 19 เนื่องจากเรายังไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่เราจำเป็นที่จะต้องเปิดประเทศมากขึ้น เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจเดินหน้าไปได้
สำหรับการลดการกักตัวจาก 14 วันนั้น ขณะนี้คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ศึกษาถึงการเจาะเลือดตรวจหาภูมิคุ้มกัน ซึ่งสามารถตรวจเจอได้หลังติดเชื้อ 4-5 วัน ว่ามีความแม่นยำเช่นเดียวกับการตรวจหาเชื้อตามมาตรฐาน ก็เป็นเหตุผลหนึ่งในการเสนอให้ลดการกักตัวจาก 14 วัน อาจเหลือเพียง 10 วัน หรือ 7 วัน เนื่องจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการกักตัวลงได้ แต่ยังอยู่ระหว่างการศึกษา อย่างไรก็ตาม หากอนาคตมีวัคซีนโควิด 19 ประเทศไทยจะฟื้นตัวเร็วกว่าประเทศอื่น
ด้านนายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้จัดประชุมวิชาการอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ครั้งที่ 4 โดยจัดครบทุกพื้นที่ 4 ภาค เป็นความยินดีอย่างยิ่งที่ได้พบปะพี่น้อง อสม. ภาคเหนือ โดยการประชุมทั้ง 4 ภาค ยังคงมีการเน้นตามมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรค การเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย เพื่อไม่ให้มีการรวมตัวเป็นจำนวนมาก ในพื้นที่ภาคเหนือมีจุดเด่นในด้านภาษา วัฒนธรรม การสื่อสาร ที่เข้าใจกัน มีผลงานนวัตกรรมที่โดดเด่น โดยท่านอนุทินได้มอบรางวัลให้กับอสม. ดีเด่น ระดับจังหวัด เขต ภาคภาคเหนือ และระดับชาติ 2563 พื้นที่ต้นแบบการส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพ ประจำปี 2563 ระดับเขตสุขภาพที่ 1, 2 และ3 สร้างขวัญและกำลังใจให้กับพี่น้อง อสม. เพราะการทำงานของ อสม. ในพื้นที่ได้เห็นผลเป็นที่ประจักษ์ คนในชุมชน เชื่อใจ มีภาพลักษณ์ที่ดี เป็นตัวแทนของชุมชน เป็นหมอของชุมชนอย่างแท้จริง
************************** 30 กันยายน 2563