“สธ. – ก.ท่องเที่ยวฯ” เปิดงาน "ท่องเที่ยวสุขภาพดี รวมพล 100 ร้าน มาตรฐานสาธารณสุข ล้านนา R1” ยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพเมืองเหนือสู่การท่องเที่ยวสุขภาพระดับโลก
- สำนักสารนิเทศ
- 97 View
- อ่านต่อ
กระทรวงสาธารณสุข ห่วงใยประชาชนเผชิญทั้งแดด ฝน และลมหนาว จากสภาพอากาศเปลี่ยน อาจป่วยโรคระบบทางเดินหายใจได้ง่าย ขอให้ใส่หน้ากากอนามัย รีบพบแพทย์ กำชับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและ อสม. ให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพช่วงปลายฝนต้นหนาว เน้นสร้างความอบอุ่นให้ร่างกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงนี้ประเทศไทยมีสภาพอากาศแปรปรวน โดยอยู่ในช่วงปลายฝนต้นหนาว บางพื้นที่ช่วงเช้ามีอากาศเย็นลง ขณะที่กลางวันมีอากาศร้อน บางพื้นที่มีฝนตก เรียกว่าเจอทั้งแดดทั้งฝนและลมหนาวด้วย ประชาชนมีโอกาสป่วยเป็นไข้หวัด หรือโรคระบบทางเดินหายใจได้ง่าย เพื่อลดโอกาสการเจ็บป่วย จึงได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัดและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ออกให้ความรู้ประชาชนในการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้มีโรคเรื้อรังประจำตัว อาจมีภูมิคุ้มกันลดต่ำลง ส่งผลให้เมื่อเจ็บป่วยแล้วจะมีอาการรุนแรง
นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชนรวมถึงผู้ออกไปอยู่ในพื้นที่ที่มีคนรวมกันจำนวนมาก สวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย ใส่หมวก พกร่มไว้กันแดด กันฝน หากมีอาการโรคทางเดินหายใจ เป็นไข้หวัด มีอาการ ไข้ ไอเจ็บคอ น้ำมูก ต้องสวมหน้ากากอนามัยทั้งในบ้านและนอกบ้าน ใช้ผ้าปิดปากและจมูกเวลาไอ จาม แยกสำรับอาหารและของใช้ส่วนตัว เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่คนในครอบครัวและผู้อื่น พักผ่อนให้เพียงพอ แต่หากอาการยังไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน ขอให้ไปรับการตรวจที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน ซึ่งหากมีประวัติเสี่ยงโรคโควิด 19 จะได้รับการตรวจทางห้องปฏิบัติการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ สำหรับการดูแลสุขภาพในช่วงปลายฝนต้นหนาวนั้น ขอให้รักษาความอบอุ่นของร่างกาย จัดหาเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มกันหนาวให้เพียงพอ และอยู่ในที่อาศัยที่เหมาะสม สามารถปกป้องลมหนาวได้ รวมทั้งออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ รักษาสุขอนามัยของร่างกาย หมั่นล้างมือ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ และไม่ควรอาบน้ำอุ่นนานเกินไป หรือปรับอุณหภูมิน้ำร้อนจนเกินไป จะทำให้ผิวแห้ง คัน แตก ลอก ควรทาครีมบำรุงผิวหลังอาบน้ำทันที เพิ่มความชุ่มชื้นป้องกันผิวแตก โดยเฉพาะผู้สูงอายุมักมีสภาพผิวหนังที่แห้งง่ายตามวัย ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับผิวหนัง หรือผู้ป่วยเบาหวาน ต้องระวังอย่าให้ผิวแห้งแตก หรือเกิดเเผลจากการเกา เพราะจะเกิดการอักเสบ และเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หอบหืด เป็นต้น ควรหมั่นตรวจเช็คค่าความดันโลหิต ระดับน้ำตาลในเลือด และควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
************************************ 17 ตุลาคม 2563
*************************************************