ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการ TO BE NUMBER ONE ประจำปี 2568
- สำนักสารนิเทศ
- 111 View
- อ่านต่อ
กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน มอบอุปกรณ์รถเข็นและอุปกรณ์การแพทย์พระราชทาน ในพระนามาภิไธยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ช่วยเหลือคนพิการทางการเคลื่อนไหวในจังหวัดระยอง ประจำปี 2563
วันนี้ (26 ตุลาคม 2563) ที่วัดป่าประดู่พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ระยอง ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต และคณะผู้บริหาร มอบอุปกรณ์รถเข็นและอุปกรณ์การแพทย์พระราชทาน ในพระนามาภิไธยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ช่วยเหลือเด็กและคนพิการในพื้นที่จังหวัดระยอง ภายใต้โครงการ “การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์มอบอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการสำหรับคนพิการทางการเคลื่อนไหวในจังหวัดระยอง” ประจำปี 2563 ประกอบด้วย รถเข็นวีลแชร์ จำนวน 73 คัน เป็นรถเข็นสำหรับเด็ก จำนวน 16 คัน รถเข็นสำหรับผู้สูงอายุ 27 คัน และเป็นคนพิการทั่วไป จำนวน 30 คัน มูลค่า 2,318,210 บาท
ดร.สาธิตกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญกับการพัฒนางานสาธารณสุขตามแนวพระราชดำริ และโครงการเทิดพระเกียรติพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ในการดูแลประชาชนในถิ่นทุรกันดารห่างไกล กลุ่มผู้พิการและด้อยโอกาส โดยสถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ จังหวัดเชียงใหม่ กรมสุขภาพจิต ได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จัดทำโครงการจัดหาและสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการให้แก่เด็กพิการและคนพิการ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 20 ปี มีผู้ได้รับอุปกรณ์กว่า 30,000 คน ในปี 2549 ได้มอบอุปกรณ์ภายใต้พระนามสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และในปี พ.ศ.2553 โครงการฯ ได้รับโปรดเกล้าฯจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ให้มอบอุปกรณ์ในพระนามาภิไธยสมเด็จพระเทพราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี แก่ประชาชนที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ หรือสูญเสียโอกาสในการอยู่ในสังคม อาทิ ผู้ป่วยทางจิต ผู้ป่วยทางสมอง คนพิการด้านการเคลื่อนไหว คนพิการทางสายตา คนพิการทางการได้ยิน เด็กที่มีพัฒนาการล่าช้า เด็กพิการทางสมอง และออทิสติก ได้รับการช่วยเหลือยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง มีความภูมิใจในตนเองมากขึ้น
“ขอขอบคุณผู้มีส่วนร่วมในโครงการนี้ ทั้งองค์กรการกุศลจากต่างประเทศ และภาคีเครือข่าย การมอบอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการ เป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้คุณภาพชีวิตผู้พิการดีขึ้น” ดร.สาธิตกล่าว
ด้านแพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ผลการดำเนินงานโครงการฯ ได้ขยายความร่วมมือและส่งมอบรถเข็นและอุปกรณ์ช่วยเหลือให้กับเด็กพิการ คนพิการและครอบครัวมาแล้ว จำนวนกว่า 35,000 ราย พบว่าคนพิการมีความสุข มีความพอใจที่ได้รับรถเข็น คุณภาพชีวิตครอบครัวดีขึ้น และมีโอกาสในสังคมมากขึ้น เช่น การเรียนร่วมของเด็กพิการในโรงเรียน การได้ออกนอกบ้าน การได้ออกไปทำงาน เป็นต้น การได้เห็นรอยยิ้มของผู้รับ เป็นคุณค่าทางจิตใจที่ประเมินค่าไม่ได้ สิ่งเหล่านี้คือผลลัพธ์ของความสำเร็จและคุณค่าทางใจที่ประเมินได้จากการดำเนินโครงการนี้
******************************** 26 ตุลาคม 2563
********************************