ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการ TO BE NUMBER ONE ประจำปี 2568
- สำนักสารนิเทศ
- 112 View
- อ่านต่อ
รายงานข่าวกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ประจำวันที่ 9 พฤศจิกายน 2563
สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยวันนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย ทุกรายเป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศ เข้ากักตัวในโรงพยาบาลทางเลือก มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 7 ราย ทำให้ผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 3,661 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 95.94 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 119 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 3.1 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 60 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,840 ราย
โดยรายละเอียดผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ ได้แก่
ชาวต่างชาติ 3 ราย เป็นชาวต่างชาติ ที่เดินทางมารักษาด้วยโรคอื่น เข้ากักตัวในโรงพยาบาลทางเลือก (Alternative Hospital Quarantine) มาจากประเทศเอธิโอเปีย 2 ราย (เป็นผู้ป่วยรักษาโรคสูตินรีเวช 1 ราย, ผู้ติดตาม 1 ราย) พบเชื้อ ไม่แสดงอาการ และจากโอมาน 1 ราย (เป็นผู้ติดตามผู้ป่วย) พบเชื้อ มีน้ำมูก
นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่าสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด 19 ทั่วโลกวันนี้ มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 472,468 ราย มีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกแล้วกว่า 50 ล้านราย ซึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับรายงานนี้มีความเป็นไปได้ว่าน้อยกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจริงอยู่มาก เนื่องจากบางรายไม่แสดงอาการป่วยหรือไม่ได้เข้าสู่ระบบการรักษา
สถานการณ์ในประเทศไทย ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ขณะนี้ยังคงเป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ดังนั้นประเทศไทยจึงมีโอกาสพบผู้ติดเชื้อในประเทศได้ เนื่องจากอาจมีผู้ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการปะปนอยู่ในสังคม อย่างเช่นกรณีชายชาวอินเดีย ที่พบในจังหวัดกระบี่ ต้องขอขอบคุณประชาชน โดยเฉพาะชาวกระบี่ที่ไม่ตื่นตระหนกกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และยังให้ความสำคัญกับการป้องกันการแพร่ระบาดตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นวินัยที่ประชาชนควรปฏิบัติต่อเนื่อง ไม่ประมาทการ์ดอย่าตก ตามวิถี New Normal นอกจากนี้ขอให้ทุกคนสังเกตตนเองหากพบว่ามีอาการป่วย ไข้ ไอ อาการระบบทางเดินหายใจ การรับรสและกลิ่นลดลง ให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที
สำหรับการเปิดรับนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยจะเริ่มในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ หรือความเสี่ยงใกล้เคียงกับประเทศไทย โดยมีมาตรการรองรับในการป้องกันควบคุมโรคอย่างเข้มข้น ตั้งแต่ก่อนการเดินทาง จะต้องมีใบรับรองตรวจไม่พบเชื้อโควิดก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง ระหว่างเดินทาง ทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาที่อยู่บนเครื่องบิน และเมื่อเดินทางมาถึง จะมีระบบคัดกรอง ระบบกักกัน ตรวจหาเชื้อเป็นระยะตามมาตรฐาน เพื่อให้พบผู้ที่อาจติดเชื้อโดยเร็วที่สุด รวมถึงมีระบบติดตามขณะที่อยู่ในประเทศ เพื่อให้เกิดความปลอดสูงสุดสำหรับคนในประเทศ อีกประการสำคัญคือ นักท่องเที่ยวทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ได้แก่ หน้ากากอนามัย/ หน้ากากผ้า เว้นระยะห่าง ตลอดเวลาที่อยู่ในประเทศเพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย แม้ว่าขณะนี้จะมีนักท่องเที่ยวกลุ่ม long stay เข้ามาบ้างแล้วแต่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อจากกลุ่มนี้
************************************* 9 พฤศจิกายน 2563
*************************************