ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการ TO BE NUMBER ONE ประจำปี 2568
- สำนักสารนิเทศ
- 112 View
- อ่านต่อ
กระทรวงสาธารณสุขห่วงใยสุขภาพประชาชนช่วงสภาพอากาศเปลี่ยน โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เสี่ยงป่วยง่าย อาจป่วยเป็นไข้หวัดได้ง่าย แนะประชาชนรักษาร่างกายให้อบอุ่น ดื่มน้ำอย่างน้อยละวัน 6 – 8 แก้ว หมั่นล้างมือ ไม่ไปในสถานที่แออัด และสวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ โรคระบบทางเดินหายใจและโควิด 19
วันนี้ (9 พฤศจิกายน 2563) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี แพทย์หญิงพรรณประภา ยงค์ตระกูล โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศของประเทศไทยได้เริ่ม เข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งช่วงเริ่มต้นของฤดูหนาวในปีนี้ มีสภาพอากาศแปรปรวน พบฝนตกในบางพื้นที่ หลายพื้นที่มีอากาศเย็นลง ขณะที่กลางวันมีอากาศร้อน ทำให้ประชาชนมีโอกาสป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่หรือโรคระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ร่างกายอาจปรับตัวไม่ทันและเกิดการเจ็บป่วยได้ง่าย ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ในปี 2563 ตั้งแต่ 1 มกราคม – 2 พฤศจิกายน 2563 พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่จำนวน 114,762 ราย เสียชีวิต 3 ราย ภาคที่มีอัตราป่วยสูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ โดยจังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อแสนประชากรสูงสุด ได้แก่ พะเยา เชียงใหม่ หนองคาย ระยอง และกรุงเทพมหานคร
แพทย์หญิงพรรณประภา กล่าวต่อว่า สำหรับการดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรงในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง ขอให้ยึดหลักสุขอนามัยที่ดี รักษาความอบอุ่นของร่างกาย หลีกเลี่ยงการไปอยู่ในพื้นที่แออัด มีคนรวมกันจำนวนมาก ไม่คลุกคลีและไม่ใช้ของร่วมกับผู้ป่วย พักผ่อนให้เพียงพอ รักษาสุขอนามัยของร่างกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำอย่างน้อยละวัน 6 – 8 แก้ว ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หากพบว่าเป็นหวัดหรือระบบ ทางเดินหายใจ ให้สวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่คนรอบข้าง โดยสวมอย่างถูกวิธีดึงหน้ากากให้ครอบบริเวณจมูกและปากอย่างมิดชิด ไม่ดึงไว้ใต้คาง และแยกสำรับอาหารและของใช้ส่วนตัว นอกจากจะป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แล้ว ยังช่วยป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจและโรคโควิด 19 ได้อีกด้วย หากอาการไม่ดีขึ้นและสงสัยโรคไข้หวัดใหญ่ แนะนำให้ไปพบแพทย์ใกล้บ้าน ทั้งนี้หากผู้ป่วยมีประวัติเสี่ยงโรคโควิด 19 จะได้รับการตรวจทางห้องปฏิบัติการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
******************************* 10 พฤศจิกายน 2563
*********************************************