รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบนโยบายกรมการแพทย์ “New Normal Medical Care การแพทย์ก้าวหน้า” ผู้ป่วยมะเร็งรักษาทุกที่ในโรงพยาบาลที่พร้อม เริ่ม 1 มกราคม 2564 ได้รับการรักษาเร็ว ลดการเสียชีวิต เตรียมแผนรับมือโควิด 19 เมื่อเปิดประเทศ การบำบัดรักษายาเสพติด การดูแลสุขภาพพระภิกษุอาพาธ กัญชาทางการแพทย์

          วันนี้ (11 พฤศจิกายน 2563) ที่โรงแรมเครสโก จังหวัดบุรีรัมย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดการสัมมนาเชิงวิชาการ “นโยบายการแพทย์ก้าวหน้า กรมการแพทย์ ปีงบประมาณ 2564” เพื่อสื่อสารนโยบายกระทรวงสาธารณสุขและการแพทย์ก้าวหน้าไปสู่การปฏิบัติ โดยมีอธิบดี ผู้ตรวจราชการกระทรวง สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 1-13 นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป และผู้บริหารกรมการแพทย์ ร่วมสัมมนา 300 คน

          นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้มอบนโยบาย New Normal Medical Care การแพทย์ก้าวหน้า เพื่อให้ผู้รับบริการและบุคลากรการแพทย์ปลอดภัย ลดแออัด ลดเหลื่อมล้ำ ใน 5 ประเด็นสำคัญ คือ 1.การเตรียมความพร้อมในการรองรับโรคโควิด 19 เมื่อเปิดประเทศ ทั้งระบบบริการแบบ New Normal มาตรการภาครัฐและการป้องกันส่วนบุคคล 2.มะเร็งรักษาทุกที่ พัฒนารูปแบบการรักษาและระบบบริการผู้ป่วยโรคมะเร็ง ให้สามารถเข้ารับการรักษาได้ในโรงพยาบาลทุกที่ที่มีความพร้อม ลดระยะเวลารอคิว ได้รับการรักษาเร็วขึ้น ลดการเสียชีวิต เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 3.การบำบัดรักษาผู้ป่วยยาเสพติด โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของชุมชนและครอบครัว บูรณาการทุกภาคส่วนในการดูแล บำบัด รักษา ฟื้นฟู 4.การดูแลสุขภาพพระภิกษุอาพาธ จัดตั้งกองทุนอุปัฏฐากพระภิกษุอาพาธทั่วประเทศมอบให้กับทุกเขตสุขภาพ และ 5.กัญชาทางการแพทย์ เพิ่มการเข้าถึง ส่งเสริมการใช้สารสกัดกัญชาทางการแพทย์ และสร้างความเข้าใจแก่บุคลากรทางการแพทย์นำมาใช้ประโยชน์ในการดูแลรักษา

          ด้าน นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการจัดบริการรักษาโรคมะเร็งทุกที่ในโรงพยาบาลที่มีความพร้อม กรมการแพทย์ได้พัฒนา 4 โปรแกรมขึ้นมารองรับ ได้แก่ 1.โปรแกรมฐานข้อมูลทะเบียนมะเร็ง Thai Cancer Based (TCB) ที่ต่อยอดเป็น TCB Plus เพื่อให้ใช้ลงทะเบียนและรับส่งต่อผู้ป่วย  2.The One Program เพื่อใช้บริหารจัดการคิวในการตรวจทางรังสีวินิจฉัย และการรักษาด้วยรังสีรักษาและเคมีบำบัด โดยผู้ป่วยมะเร็งสามารถเลือกประเภทการตรวจหรือรักษา เช่น การทำ MRI, แมมโมแกรม, ซีทีสแกน เป็นต้น ซึ่งแต่ละบริการจะระบุจำนวนโรงพยาบาลที่มีความพร้อมให้บริการ เมื่อเลือกโรงพยาบาลที่ต้องการแล้ว สามารถเลือกวันและเวลาที่ผู้ป่วยสะดวกได้ ซึ่งจะมีตารางให้เห็นว่า รอบบริการไหนที่มีคิวเต็มแล้วหรือยังว่างอยู่ เปรียบเสมือนการชมภาพยนตร์ที่สามารถเลือกภาพยนตร์ที่ชอบ เลือกโรงหนัง เลือกรอบเวลาและที่นั่งตามสะดวก 3.โปรแกรม DMS bed Monitoring เพื่อใช้บริหารจัดการเตียง และ4.แอปพลิเคชัน DMS Telemedicine ที่ใช้นัดคิวเพื่อรับการปรึกษาทางไกล (Tele-Consult) กับแพทย์ได้ ขอนัดรับยา ติดตามการรับยาทางไปรษณีย์ เป็นต้น

 ******************************** 11 พฤศจิกายน 2563

ภาพโดย .....
  ลักษณ์วิไล ยุทธสุทธิพงษ์ .....กลุ่มข่าวฯ สำนักสารนิเทศ สป.

 



   
   


View 1862    11/11/2563   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ