รายงานข่าวกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

ประจำวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563

          สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยวันนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7 ราย ทุกรายเป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศ เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ 5 ราย และเข้ากักตัวในสถานที่รัฐกำหนด 2 ราย มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 5 ราย ทำให้ผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 3,766 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 96.07  ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 94 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ ราย 2.4 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 60 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,920 ราย

          รายละเอียดผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ ได้แก่

ชาวไทย 6 ราย โดย 5 ราย เดินทางมาจากเดนมาร์ก 1 ราย, สหรัฐอเมริกา 1 ราย, สหราชอาณาจักร 1 ราย, สาธารณรัฐคอซอวอ 1 ราย และการ์ต้า 1 รายเข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ทั้งหมด ตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ ส่งต่อรักษาที่โรงพยาบาลตามระบบ ส่วนอีก 1 ราย เดินทางมาจากประเทศเยอรมนี เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดกำหนด (Alternative State Quarantine) ตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน โดยค่าใช้จ่ายคิดจากประกันโควิด 19 ที่ผู้เข้ารับการกักตัวทำไว้ก่อนเดินทางเข้าประเทศ

ชาวต่างชาติ 1 ราย เดินทางมาจากประเทศเลบานอน เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดกำหนด (Alternative State Quarantine) มีอาการไข้ เจ็บคอ ปวดศีรษะ และปวดกล้ามเนื้อ ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน โดยค่าใช้จ่ายคิดจากประกันโควิด 19 ที่ผู้เข้ารับการกักตัวทำไว้ก่อนเดินทางเข้าประเทศ

       นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการที่ประเทศไทยได้เข้มงวดมาตรการเฝ้าระวังในพื้นที่แนวชายแดนทั้งในเขต 10 จังหวัดที่ติดกับประเทศเมียนมา และพื้นที่ชายแดนประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีช่องทางธรรมชาติที่อาจเกิดการลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายได้ หลังพบว่าทั้ง 2 ประเทศมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทำการสุ่มตรวจหาเชื้อเชิงรุกตามในพื้นที่แนวชายแดนอยู่เป็นระยะ ทำให้สามารถตรวจพบและดักจับผู้ติดเชื้อที่เดินทางข้ามแดนเข้ามาได้อย่างทันท่วงที และส่งผู้ติดเชื้อกลับประเทศต้นทางหรือเข้าสู่ระบบการรักษา ป้องกันการนำเชื้อมาแพร่สู่คนในชุมชน นับเป็นมาตรการสำคัญที่ช่วยให้ประเทศไทยสามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนยังคงสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่างอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยจากโควิด 19 และโรคระบบทางเดินหายใจอื่นๆ

       นายแพทย์โสภณกล่าวต่อว่า เนื่องจากวันหยุดยาว 4 วันที่ผ่านมา ขอให้ทุกคนที่เดินทางกลับจากการท่องเที่ยวเฝ้าระวังสังเกตอาการป่วยของตนเองและคนรอบข้างอยู่เสมอ หากป่วยด้วยอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีอาการระบบทางเดินหายใจ อ่อนเพลีย และอาการเด่นของโรคโควิด 19 ที่องค์การอนามัยโลกระบุ คือ “จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส” ขอให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาทันที

********************************* 23 พฤศจิกายน 2563

************************************

 

 



   
   


View 1267    23/11/2563   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ