โฆษกกระทรวงสาธารณสุข แนะประชาชนหลังออกเจในระยะเริ่มแรก ควรเริ่มกินอาหารจำพวกปลา เพราะย่อยง่าย มีไขมันต่ำ เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพการย่อยและดูดซึมอาหารให้กลับสู่สภาวะปกติ ถ้าจะให้ดีต้องชั่งน้ำหนักตัวก่อนว่าช่วงกินเจ น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นหรือไม่ หากเพิ่มต้องปรับเมนูชนิดไร้ไขมัน หรือไขมันต่ำแทน นายสง่า ดามาพงษ์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาต่อยอดเกี่ยวกับกินเจที่เพิ่งจะจบลงไปหมาด ๆ เพราะเป็นห่วงสุขภาพของคนกินเจว่า การกินผักที่กินติดต่อกันมานานถึง 10 วัน ส่งผลให้ร่างกายปรับระบบการย่อยอาหารจากย่อยเนื้อสัตว์มาเป็นพืชผักแทน แต่พอหันกลับมากินเนื้อสัตว์แบบเดิม จะทำให้ร่างกายปรับสภาพ ไม่ทัน ดังนั้นอาหารหลังออกเจในระยะเริ่มแรก ควรเริ่มด้วยอาหารที่ย่อยง่าย โดยเฉพาะอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ให้เน้นการกินปลา ไข่ และนมแทนก่อน แล้วจึงค่อยๆ เริ่มกินเนื้อไก่ หมู และวัว ตามลำดับ เพราะปลาเป็นอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพดี ย่อยง่าย ไขมันต่ำ และมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเป็นผลดีต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นการป้องกันโรคหัวใจหลอดเลือดได้ โดยเมนูปลาที่รับประทานควรเป็นประเภทต้ม นึ่ง ย่าง แทนการทอด แต่ถ้าต้องการกินผลิตภัณฑ์ถั่วเมล็ดแห้ง เช่น เต้าหู้ และโปรตีนเกษตรแทนเนื้อสัตว์ต่อไปก็ไม่เสียหาย แต่แนะให้ดื่มนมและกินไข่ควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้ได้โปรตีนที่มีคุณภาพพอเพียงต่อร่างกาย โฆษกกระทรวงสาธารณสุขยังได้กล่าวเชิญชวนให้ผู้กินเจ ฉวยโอกาสเทศกาลกินเจ มาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารให้ถูกหลักโภชนาการ โดยแนะนำให้ประเมินภาวะโภชนาการของตนเองแบบง่าย ๆ ด้วยการชั่งน้ำหนักตัว ดูว่าน้ำหนักขึ้นในช่วงกินเจหรือไม่ หากน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 กิโลกรัม แสดงว่าพฤติกรรมกินเจไม่ถูกต้อง เนื่องจากสาเหตุที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเกิดจากการกินอาหารประเภทแป้ง และไขมันจากอาหารเจมากเกินไป จึงควรเอาบทเรียนดังกล่าวมาปรับการกินอาหารหลังออกเจ โดยใช้เมนูประเภทต้ม นึ่ง ย่าง ยำ อบ แทนการกินผัด ๆ และทอด ควรกินข้าว แป้ง ให้พอเหมาะและกินอาหารหวานแต่น้อย ส่วนพฤติกรรมการกินผัก ผลไม้ ขอให้ปฏิบัติต่อไป แต่ขอให้กินหลากหลายชนิด และล้างผักให้สะอาดก่อนกินทุกครั้ง “กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ คู่กับกินพอเพียง หลีกเลี่ยงหวาน มัน เค็ม เติมเต็มผัก ผลไม้ ใส่ใจออกกำลังกาย จะเกิดสุขสบายตลอดไป ไม่ใช่เฉพาะช่วงกินเจ” โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในตอนท้าย *************************************** 31 ตุลาคม 2549


   
   


View 9    31/10/2549   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ