สาธารณสุข เผยหญิงไทยถูกมะเร็งเต้านมคุกคามปีละเกือบ 6,000 ราย รองจากมะเร็งปากมดลูก พบมากอายุ 40 ปีขึ้นไป จะมาพบแพทย์เมื่อโรคเข้าสู่ระยะลุกลามร้อยละ 56 โดยผู้หญิงในกทม. พบอัตราการป่วยด้วยมะเร็งเต้านมสูงเป็นอันดับ 1 ใน 1 แสนคนพบป่วย 25 คน เร่งรณรงค์กระตุ้นให้หญิงไทยทุกคนตรวจเต้านมด้วยตนเอง ปลายปีนี้จะจัดรถเอ็กซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ ให้บริการกลุ่มหญิงอายุ 40-60 ปี และกลุ่มเสี่ยงอายุ 35 ปีขึ้นไป นำร่องในกทม.และปริมณฑล
บ่ายวันนี้(1ตุลาคม 2551)ที่อุทยานเบญจสิริ กทม.นายแพทย์เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์และนายแพทย์ธีรวุฒิ คูหาเปรม ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เปิดงานมหกรรมต้านภัยมะเร็งเต้านม ครั้งที่ 8 ซึ่งองค์การอนามัยโลกกำหนดให้เดือนตุลาคมของทุกปี เป็นเดือนสากลแห่งการต่อต้านมะเร็งเต้านม (Breast Cancer Awareness Month) เพื่อกระตุ้นให้สตรีทั่วโลกให้ความสำคัญกับการดูแลเต้านมตนเองให้ปลอดภัยจากมะเร็ง โดยใช้สัญลักษณ์ โบว์ชมพู แทนความห่วงใย
นายแพทย์เรวัต กล่าวว่า โรคมะเร็งเต้านมพบมากเป็นอันดับ 3 ของสตรีทั่วโลก แต่ละปีพบผู้ป่วยใหม่ 910,000 ราย ในไทยพบผู้ป่วยรายใหม่ 5,854 รายหรือ 21 คนใน 1 แสนคน สูงเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งปากมดลูก คาดว่าปีนี้ ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมรายใหม่จะเพิ่มเป็น 12,000 ราย โดยเฉพาะผู้หญิงในเขตกทม. ที่ขณะนี้พบอัตราการป่วยด้วยมะเร็งเต้านมสูงเป็นอันดับ 1 โดยใน 1 แสนคนจะพบเป็นมะเร็งเต้านม 25 คน
ดังนั้นต้องเร่งให้ความรู้กระตุ้นผู้หญิงอายุ 20 ปีขึ้นไป ควรตรวจเต้านมด้วยตนเองเดือนละครั้งเป็นประจำหลังหมดประจำเดือน 7 วัน หากพบก้อนหรือสิ่งผิดปกติใดๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์นอกจากนี้ ผู้หญิงที่อายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ควรไปรับการตรวจเต้านมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และตรวจเอกซเรย์เต้านม (Mammogram) ปีละครั้ง เพราะหากเจอมะเร็งในระยะแรกการรักษาได้ผลดีโอกาสหายร้อยละ 80-90 และในปลายปี 2551 สถาบันมะเร็งแห่งชาติ จะจัดบริการรถเอ็กซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ (Digital Mobile Mammogram) ซึ่งสามารถถ่ายภาพก้อนมะเร็งที่มีขนาดเล็ก ที่ตัวผู้ป่วยหรือหมออาจจะยังคลำไม่พบ ให้บริการกลุ่มผู้หญิงอายุ 40-60 ปี และสตรีกลุ่มเสี่ยงอายุ 35 ปีขึ้นไป โดยตั้งเป้าให้บริการกลุ่มเป้าหมายให้ได้ร้อยละ 80 นำร่องในหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ รวมทั้งชุมชนด้อยโอกาสในเขตกทม.และปริมณฑล ก่อนขยายบริการไปทั่วประเทศ
ด้านนายแพทย์ธีรวุฒิ คูหะเปรม ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า สาเหตุของโรคมะเร็งเต้านมยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าเกี่ยวกับฮอร์โมนเพศหญิงคือเอสโตรเจน โดยเฉพาะหญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม หญิงที่ไม่แต่งงานหรือแต่งงานแต่ไม่มีบุตร มีประจำเดือนเร็วก่อนอายุ 12 ปี หมดประจำเดือนช้าหลังอายุ 50 ปี การดื่มสุรา โรคอ้วน กินอาหารไขมันสูงและขาดการออกกำลังกาย พบได้ทุกช่วงอายุตั้งแต่วัยสาวถึงวัยชรา พบมากอายุ 40 ปีขึ้นไป และมักจะมาพบแพทย์เมื่อเข้าสู่ระยะลุกลามแล้วถึงร้อยละ 56 การป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งคือ การออกกำลังกาย อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้งๆ ละ 1 ชั่วโมง รับประทานผักและผลไม้เป็นประจำทุกวัน หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง งดดื่มสุราและงดสูบบุหรี่
ตุลาคม************************************************************* 1 ตุลาคม 2551
View 7
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ