วันนี้ (3 สิงหาคม 2566) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานงานรณรงค์ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ “Enabling Breastfeeding” “สานพลัง สร้างสรรค์สังคมนมแม่ เพื่อพ่อแม่ที่ต้องทำงาน” ณ หอประชุมสนามกีฬา อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ว่า จากการสํารวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย ปี 2562 (MICs6) พบว่า อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน (EBF rate) เท่ากับร้อยละ 14.0 และเพิ่มขึ้นในปี 2565 (MICs7) เท่ากับ ร้อยละ 28.6 แม้ว่าแนวโน้มการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่ถึงเป้าหมายที่ไทยและทั่วโลกกำหนดไว้ คือ เด็กไทยอย่างน้อยร้อยละ 50 กินนมแม่อย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 เดือน ซึ่งจากผลการสำรวจ พบว่า ปัจจัยและสาเหตุสำคัญที่ทำให้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในประเทศไทยไม่สำเร็จ ได้แก่ แม่ต้องกลับไปทำงาน เพราะสิทธิการลาคลอดของแม่สามารถลาคลอดได้เพียง 98 วัน (ประมาณ 3 เดือน) หรือส่วนหนึ่งแม่มีความเชื่อมั่นในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ลดลง เชื่อว่าน้ำนมตนเองไม่เพียงพอ และไม่มีความรู้เพียงพอ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการขับเคลื่อนไปด้วยกัน
      นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า กรมอนามัยสนับสนุนให้เด็กทุกคนได้กินนมแม่อย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก คือ กินนมแม่ตั้งแต่ 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด กินนมแม่เพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรก และกินนมแม่ต่อเนื่องควบคู่อาหารตามวัยจนถึงอายุ 2 ปี หรือนานกว่านั้น เพราะนมแม่หยดแรกเปรียบเสมือนวัคซีนในการป้องกันโรค เพราะมีภูมิคุ้มกันโรคที่ไม่สามารถหาได้จากนมผง มีคุณค่าทางโภชนาการสูงที่ช่วยในการเจริญเติบโตและสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้เด็ก ทั้งนี้หลัง 6 เดือนเป็นต้นไป ควรให้เด็กกินอาหารในปริมาณน้อยๆ และมีความเหลว เพื่อให้ง่ายต่อการฝึกกลืนและกระบวนการย่อย เนื่องจากระบบย่อยอาหารของเด็กยังไม่สมบูรณ์ หากกินอาหารไม่ถูกต้องอาจทำให้ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ท้องเสีย แพ้อาหารและเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากลำไส้อุดตันได้
        “ปัจจุบันผู้หญิงมีบทบาทในการทำงานนอกบ้านมากขึ้น จึงส่งผลกระทบให้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ลดลง เพื่อให้แม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ตามความต้องการ อีกทั้ง การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะนมแม่สามารถผลิตได้เองโดยไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถให้ลูกกินได้ทุกที่ ทุกเวลา นอกจากนั้น การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ยังได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการเจริญเติบโต พัฒนาการทั้งร่างกายและสมองและเป็นรากฐานแห่งชีวิตที่ดี ในระยะยาวของแม่และลูก กรมอนามัย จึงสนับสนุนให้ทุกภาคส่วน รวมถึงภาคประชาชน ขับเคลื่อนครอบครัว และสังคม สร้างสังคมนมแม่อย่างยั่งยืน เพื่อให้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน ในประเทศไทยประสบความสำเร็จ” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด

***
กรมอนามัย / 3 สิงหาคม 2566



   
   


View 373    03/08/2566   ข่าวในรั้ว สธ.    สำนักสารนิเทศ