สาธารณสุข จัดหน่วยแพทย์พยาบาลไทย 2 ทีม ร่วมเดินทางไปดูแลสุขภาพชาวไทยมุสลิมที่เข้าร่วมพิธีฮัจย์ ประจำปี 2551 จำนวน 12,086 คน ณ นครเมกกะ ตลอด 4-6 สัปดาห์ฟรี และปีนี้จัดยาสามัญ เช่นยาแก้แพ้ ยาแก้เมาเครื่อง ยาแก้ท้องเสีย ให้ผู้แสวงบุญพกติดตัว ใช้กรณีป่วยฉุกเฉินด้วย
วันนี้ (6พ.ย.2551) น.พ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เดินทางไปตรวจเยี่ยมด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ จ.สงขลา และพบปะชาวไทยมุสลิมที่จะเดินทางไปแสวงบุญ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย เพื่อให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวระหว่างเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์และมอบยาสามัญจำนวน 300 ชุด สำหรับพกติดตัว เพื่อใช้ในยามเจ็บป่วยฉุกเฉิน
น.พ.ม.ล.สมชาย ให้สัมภาษณ์ว่า ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใยสุขภาพชาวไทยมุสลิมที่จะเดินทางไปร่วมพิธีฮัจย์ประจำปี 2551 จำนวน 12,086 คน ซึ่งได้เริ่มทยอยเดินทางตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2551 2 ธันวาคม 2551 ได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรค จัดเตรียมความพร้อมทางสุขภาพ เนื่องจากแต่ละปีจะมีชาวมุสลิมจากทั่วโลกเข้าร่วมพิธีจำนวนมากประมาณ 2 ล้านคน และต้องมาอยู่รวมกันในสถานที่จำกัดเป็นเวลานาน 4-6 สัปดาห์ จึงมีโอกาสเกิดโรคระบาดได้ โดยเฉพาะโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ซึ่งติดกันง่ายทางการไอจาม ที่พบมากทุกปีคือไข้หวัด พบได้เกือบร้อยละ 80 ของผู้ป่วย รองลงมาคือปอดอักเสบและโรคอุจจาระร่วง พบได้ร้อยละ4 โดยได้จัดส่งหน่วยแพทย์ พยาบาลไทย จำนวน 2 ทีม รวม 30 คน พร้อมเวชภัณฑ์ ยารักษาโรค ไปดูแลชาวไทยมุสลิมฟรี อย่างเต็มที่ โดยตั้งหน่วยพยาบาลอยู่ที่อาคารยะฟารี ชั้น1 ถนนอัลมัสยิดฮะรอม นครเมกกะ และแต่ละวันได้จัดทีมแพทย์เดินเท้าติดตามผู้แสวงบุญขณะร่วมพิธีด้วย เพื่อให้การดูแลได้ทันท่วงที โดยประจำการระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม 2551 ถึง12 มกราคม 2552
น.พ.ม.ล.สมชาย กล่าวต่อว่า ในการเตรียมความพร้อมทางด้านสุขภาพชาวไทยมุสลิมที่เดินทางไปร่วมพิธีฮัจย์ในปีนี้ กรมควบคุมโรค ได้จัดแผนไว้ 3 ระบบ คือก่อนเดินทาง ระหว่างประกอบพิธีฮัจย์ และหลังกลับจากพิธีฮัจย์ โดยก่อนเดินทาง ได้จัดบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่น ซึ่งเป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่พบได้ในช่วงประกอบพิธีฮัจย์ ประเทศซาอุดิอาระเบียกำหนดให้ผู้ไปประกอบพิธีทุกคนต้องฉีดวัคซีนดังกล่าว ก่อนเดินทางเข้าประเทศอย่างน้อย 10 วัน และฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เป็นกรณีพิเศษให้ด้วย วัคซีนทั้ง 2 ชนิดนี้จะสร้างภูมิต้านทานในร่างกายหลังฉีดแล้ว 15 วัน นอกจากนี้ได้ทำคู่มือดูแลสุขภาพให้ผู้แสวงบุญ ส่วนผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคหอบหืด โรคไส้เลื่อน โรคไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน ให้จัดเตรียมยาในปริมาณเพียงพอจนถึงวันเดินทางกลับไปด้วย และเขียนชื่อโรคที่ป่วยและยาที่ใช้เป็นภาษาอังกฤษ เพื่อเป็นข้อมูลต่อแพทย์ในประเทศซาอุดิอาระเบียหากจำเป็นต้องเข้ารับการรักษา
ส่วนระหว่างการประกอบพิธี ในปีนี้กรมควบคุมโรคได้จัดยาสามัญที่จำเป็น เช่น ยาลดไข้ ยาแก้แพ้อากาศ ยาแก้เมาเครื่องบิน ยาหม่อง ผงน้ำตาลเกลือแร่แก้ท้องเสีย รวมทั้งพลาสเตอร์ปิดแผล ให้ผู้แสวงบุญทุกคนพกติดตัว เมื่อเกิดเหตุจำเป็นสามารถใช้ได้ทันที และภายหลังกลับจากพิธีฮัจย์ ได้ให้สำนักงานป้องกันและควบคุมโรค 12 แห่งทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ติดตามเฝ้าระวังโรคโดยเฉพาะโรคไข้กาฬหลังแอ่น เป็นเวลา 2 สัปดาห์ หากป่วยสามารถให้การดูแลและควบคุมโรคได้อย่างทันท่วงที
*****************6 พฤศจิกายน 2551
View 8
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ