กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เตือนจากสถาการณ์อากาศที่เริ่มเย็นลง ความกดอากาศต่ำ ส่งผลให้ปริมาณฝุ่นสูงขึ้น แนะนำวิธีการเลือกและสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นให้ถูกต้อง เพื่อลดการสูดฝุ่นเข้าสู่ร่างกาย ย้ำ เช็กค่าฝุ่น PM2.5 เป็นกิจวัตรประจำวันทุกเช้า

          แพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า สถานการณ์ฝุ่น PM2.5  วันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 พบ ปริมาณฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐานอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพในหลายพื้นที่ ทั้งภาคเหนือ ภาคกลางและตะวันตก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้แก่ จังหวัดอุทัยธานี สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก สุพรรณบุรี หนองคาย นนทบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ นครปฐม รวมทั้ง กรุงเทพมหานคร โดยค่า PM2.5 สูงสุดที่ ตำบลมหาชัย อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งจากสถานการณ์ฝุ่น PM2.5  ที่สะสมตัวมากขึ้น ส่งผลให้ในบางพื้นที่มีค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีส้มที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ  ประกอบกับช่วงนี้อากาศเริ่มหนาวเย็น ความกดอากาศต่ำ ส่งผลให้ค่าฝุ่นสูง กรมอนามัยจึงแนะนำให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น หอบหืด ภูมิแพ้ เยื่อบุตาอักเสบ หัวใจและหลอดเลือด รวมถึงผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง เช่น ตำรวจจราจร แม่ค้าริมถนน พนักงานกวาดถนน คนขับรถรับจ้างทั้งรถจักรยานยนต์และรถสามล้อ พนักงานส่งอาหาร และผู้ที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง หากจำเป็นต้องออกจากบ้านให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น

           “ทั้งนี้ การป้องกันฝุ่น PM2.5 ที่ดีที่สุด คือ การหลีกเลี่ยงสูดฝุ่น PM2.5 เข้าสู่ร่างกาย แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นที่เหมาะสม โดยต้องเลือกหน้ากากที่ได้มาตรฐาน สะอาด ไม่มีกลิ่นผิดปกติหรือฉีกขาด ขนาดของหน้ากากต้องเหมาะสมกับใบหน้า และกิจกรรมหรือลักษณะงานของผู้สวมใส่ เช่น หน้ากาก N95 เหมาะสำหรับกลุ่มทำงานกลางแจ้ง เช่น คนงานก่อสร้าง ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับจราจร พนักงานกวาดถนน แนะนำให้สวมหน้ากาก N95 หากทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานาน และมีค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) ทั้งนี้ ให้ถอดหน้ากาก หากรู้สึกอึดอัด หายใจไม่สะดวก แน่นหน้าอก เมื่อยล้า หรือปวดศีรษะ และเปลี่ยนวิธีป้องกันตนเอง เช่น เข้าไปอยู่ในอาคารหรือหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ที่มีฝุ่นสูง สำหรับกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และกลุ่มที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหอบหืด โรคหัวใจ ไม่แนะนำให้สวมหน้ากาก N95 สำหรับหน้ากากอนามัย แนะนำสำหรับทุกคน สามารถสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่น
เมื่อออกนอกอาคารได้ ทั้งนี้ ไม่แนะนำให้สวมหน้ากากทุกประเภทขณะออกกำลังกายกลางแจ้ง ที่สำคัญ ต้องสวมหน้ากากให้ถูกต้อง ใส่ให้กระชับใบหน้า ครอบทั้งจมูกและปาก ซึ่งจะช่วยป้องกันฝุ่น PM2.5 ได้ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ประชาชนควรติดตามสถานการณ์ฝุ่นเป็นกิจวัตรประจำวันทุกเช้า ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ airbkk.com หรือแอปพลิเคชัน Air4Thai และ Life Dee หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสอบถามได้ที่สายด่วนกรมอนามัย 1478” รักษาราชการอธิบดีกรมอนามัย กล่าว

***

กรมอนามัย / 21 พฤศจิกายน 2566



   
   


View 275    21/11/2566   ข่าวในรั้ว สธ.    สำนักสารนิเทศ