วันนี้ (13 ธันวาคม 2566) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมวิชาการระดับชาติด้านการส่งเสริมสุขภาพและนวัตกรรมการดูแลผู้สูงอายุ ครั้งที่ 3 (The 3rd National Health Promotion and Elderly Care Innovation Conference 2023) “ขับเคลื่อนสุขภาวะผู้สูงวัยด้วยพลังเครือข่ายชุมชน” (Driving the Health of the Elderly with the Power of Community Networks) พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และภาคีเครือข่าย ร่วมงาน ณ โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ต จังหวัดปทุมธานี

        นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า รัฐบาลเตรียมความพร้อมนำพาประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพ  โดยทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ในการดูแลผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งในปี 2567 กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบาย “ยกระดับ 30 บาท พลัส” เพื่อแก้ไขปัญหา การวางรากฐาน และการสร้างเศรษฐกิจ เพิ่มคุณภาพชีวิตประชาชน และลดช่องว่างบริการสาธารณสุข สำหรับการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดแนวปฏิบัติและการสื่อสารไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลทุกระดับ ไปจนถึงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และอาสาสมัครสาธารณสุข ซึ่งถือเป็นกลไกการทำงานที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายลงสู่การปฏิบัติ เพื่อดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบองค์รวม ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสังคมอย่างถูกต้อง พร้อมร่วมสร้างวัฒนธรรมการดูแลผู้สูงอายุร่วมกันโดยเชื่อมต่อหน่วยงานรัฐ เอกชน ชมรม และเครือข่ายภาคประชาสังคม เพื่อส่งมอบบริการที่เหมาะสมให้ถึงมือผู้สูงอายุในทุกจังหวัด

        “กระทรวงสาธารณสุข ได้มอบหมายให้กรมอนามัยดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุให้สามารถดำรงชีวิตประจำวันได้ด้วยตนเอง มีอายุยืนยาว และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยการพัฒนาระบบการเฝ้าระวังและส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุในชุมชน สนับสนุนการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ ขับเคลื่อนงานชุมชนที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ พร้อมทั้งสนับสนุนให้ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงได้รับบริการด้านสาธารณสุขถึงที่บ้านอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน มีการพัฒนาทักษะ Care Manager จำนวน 21,129 คน Caregiver จำนวน 108,177 คน จิตอาสาในชุมชน และขับเคลื่อนกฎหมาย มาตรฐาน หลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับการดูแลส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ บูรณาการการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนทั้งในชมรมผู้สูงอายุ ชุมชน และท้องถิ่น” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

        ทางด้าน แพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การประชุมวิชาการระดับชาติด้านการส่งเสริมสุขภาพและนวัตกรรมการดูแลผู้สูงอายุ ครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 เพื่อพัฒนาความร่วมมือทางด้านวิชาการ การวิจัย นวัตกรรมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ส่งเสริมให้ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่สร้างสรรค์งานวิจัยที่สามารถนำไปพัฒนาองค์ความรู้ต่อยอดงาน ให้มีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อการดูแลผู้สูงอายุมากยิ่งขึ้น

        “นอกจากนี้ยังเป็นเวทีในการเชิดชูเกียรติและสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานดีเด่น ระดับประเทศ 7 ประเภท ดัง 1) ผู้สูงอายุต้นแบบสุขภาพดี ชีวีมีสุข ดีเด่น 2) ชมรมผู้สูงอายุ ดีเด่น 3) ผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Caregiver) ดีเด่น 4) นวัตกรรมด้านการส่งเสริมดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ดีเด่น 5) ผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุ (Care Manager) ดีเด่น 6) บุคลากรที่ขับเคลื่อนนโยบายและให้การสนับสนุนการดำเนินงานด้านการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุในระดับพื้นที่ ดีเด่น และ 7) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ขับเคลื่อนการดำเนินงานตำบลที่มีระบบการส่งเสริมสุขภาพดูแลผู้สูงอายุระยะยาว (Long Term Care) ในชุมชนผ่านเกณฑ์ ดีเด่น” รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย กล่าว

***

กรมอนามัย / 13 ธันวาคม 2566



   
   


View 203    13/12/2566   ข่าวในรั้ว สธ.    สำนักสารนิเทศ