สาธารณสุขเผยหญิงไทยวัย 35 ปีขึ้นไป กว่า 8 ล้านคน เสี่ยงมะเร็งปากมดลูก สาเหตุหลักเพราะอายหมอ ไม่กล้าไปตรวจ จัดกิจกรรมรณรงค์สร้างกระแสให้หญิงไทยกล้าเข้าใช้บริการตรวจหามะเร็งปากมดลูก เพื่อป้องกันอันตรายจากโรคมะเร็งปากมดลูก ที่พบร้อยละ 80 เสียชีวิตเพราะโรคลุกลาม ต้องจบชีวิตปีละกว่า 3,000 ราย บ่ายวันนี้ (9 ธันวาคม 2551) ที่ลานกิจกรรมอีเดนโซน หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิร์ล กทม. นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงานวันต่อต้านโรคมะเร็งแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 10 ธันวาคม ของทุกปี ในปีนี้ได้กำหนดคำขวัญการรณรงค์ ว่า “ตรวจแป๊ปสเมียร์ไม่น่ากลัว ไม่น่าอาย ไม่ตายจากมะเร็งปากมดลูก” (Have no fear, Take a Pap smear) เพื่อสร้างกระแสให้หญิงไทยตระหนักถึงอันตรายของโรคมะเร็งปากมดลูก ซึ่งพบมากเป็นอันดับหนึ่งในผู้หญิง แต่รักษาให้หายขาดได้หากตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม นายวิชาญ กล่าวว่า ขณะนี้โรคมะเร็งปากมดลูกเป็นสาเหตุที่ทำให้หญิงไทยเสียชีวิตมากเป็นอันดับ 1 ปีละกว่า 3,000 ราย ในปี 2549 ทั่วประเทศพบผู้ป่วยรายใหม่ 6,228 ราย ปี 2551 คาดว่าจะมีผู้หญิงป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 8,000 ราย โดยร้อยละ 90 พบมากในช่วงอายุ 35-50 ปี และส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 80 จะเสียชีวิตเพราะโรคลุกลามไปแล้ว ซึ่งแท้จริงแล้วมะเร็งชนิดนี้สามารถป้องกันและรักษาได้หายขาด ถ้าตรวจพบและได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะที่เซลล์มะเร็งยังไม่ลุกลาม จากผลการวิจัยยืนยันว่าหากสามารถตรวจหามะเร็งปากมดลูกให้ครอบคลุมร้อยละ 80 ของสตรีไทยทุกปี จะลดอัตราการตายจากมะเร็งปากมดลูกได้ถึงร้อยละ 61 และภายใน 5 ปี คาดว่าจะลดอัตราการเกิดมะเร็งปากมดลูกลงได้ร้อยละ 50 นายวิชาญ กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีหญิงอายุ 35 ปีขึ้นไป 10 ล้านคน ในจำนวนมีประมาณ 2 ล้านคนที่ไปตรวจมะเร็งปากมดลูก อีกประมาณ 8 ล้านไม่กล้าไปตรวจ ปัญหาที่สำคัญเนื่องจากอายหมอ ทำให้ไม่มีโอกาสรู้ล่วงหน้าว่าเกิดความผิดปกติที่ปากมดลูก และอาจต้องเสียเงินค่ารักษาซึ่งอย่างต่ำรายละประมาณ 20,000 บาทไป เปล่า เพราะไม่หายขาด ต้องเสียชีวิตในที่สุด กระทรวงสาธารณสุขจึงให้ทุกจังหวัดร่วมกันรณรงค์ให้หญิงไทยอายุ 35 ปีขึ้นไป เข้ารับบริการตรวจเซลล์ปากมดลูกฟรี ด้วยวิธี แป็ปสเมียร์ (Pap smear) โดยไม่ต้องอายหมอ หากพบความผิดปกติ ก็จะทำการรักษาต่อจนหาย ขณะนี้สถานบริการทั่วประเทศสามารถตรวจได้ทุกแห่ง ด้านนายแพทย์เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า การตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีแป๊บสเมียร์ คือการป้ายเซลล์เยื่อบุบริเวณปากมดลูกไปตรวจหาเซลล์มะเร็ง ใช้เวลาป้ายรายละไม่ถึง 2 นาที รู้ผลตรวจภายใน15 วัน โดยทั่วไปผู้หญิงที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ทั้งที่แต่งงานแล้วและยังโสด ควรตรวจทุกปี หรืออย่างน้อย 5 ปี/ครั้ง จะลดอัตราเกิดโรคลงได้ร้อยละ 50 หากตรวจพบจะให้การรักษาต่อไปจนหายขาด ซึ่งมีโอกาสหายสูงกว่าร้อยละ 90 หากเซลล์มะเร็งยังไม่ลุกลามไปที่อื่น ในปี 2551 นี้ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดรณรงค์ตรวจมะเร็งปากมดลูกเฉลิมพระเกียรติ 116 วันแม่ถึงวันพ่อ มีผู้รับการตรวจทั้งหมด 82,705 ราย พบความผิดปกติ 175 ราย ได้ส่งตัวรักษาทันที ทั้งนี้ โรคมะเร็งปากมดลูกใช้เวลาก่อตัวนาน 5-10 ปี โดยไม่มีอาการเจ็บปวดแต่อย่างใด หากเป็นในระยะแรกจะตรวจพบโดยวิธีแป็บสเมียร์ แต่หากอยู่ในระยะลุกลาม จะมีอาการตกขาวมีกลิ่น มีเลือดออกทางช่องคลอด หรือตกขาวมีลักษณะคล้ายน้ำคาวปลา หากเป็นมากอาจถ่ายปัสสาวะเป็นเลือด หรือปัสสาวะลำบาก การตรวจแป็บสเมียร์ จะทำในขณะที่ไม่มีรอบเดือน ก่อนตรวจ 2 วัน ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ ไม่สวนล้างหรือทำความสะอาดภายในช่องคลอด ยกเว้นการเหน็บยาทางช่องคลอด ****************************** 9 ธันวาคม 2551


   
   


View 7    09/12/2551   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ