สธ.ไทยเตรียมส่งทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ–ยา–เวชภัณฑ์ ช่วยซิมบับเว ควบคุมโรคอหิวาต์

กระทรวงสาธารณสุขไทย เสนอองค์การอนามัยโลก พร้อมจัดส่งทีมแพทย์ควบคุมโรคเคลื่อนที่เร็ว และยา-วัคซีน-เวชภัณฑ์-เจลล้างมือชนิดไม่ต้องใช้น้ำล้างตาม ร่วมปฏิบัติการกับองค์การสหประชาชาติ ช่วยประเทศซิมบับเว ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคอหิวาตกโรค พร้อมเดินทางทันที จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคอหิวาตกโรค (Cholera) ที่ประเทศซิมบับเว (Zimbabwe) ในทวีปอัฟริกา เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2551 เป็นต้นมา มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 589 ราย และมีรายงานเชื้อแพร่กระจายไปยังประเทศที่มีพรมแดนติดต่อกันอีก 3-4 ประเทศนั้น ในส่วนของประเทศไทย วันนี้ (11 ธันวาคม 2551) นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุขไทย ได้เสนอองค์การอนามัยโลก จัดส่งทีมแพทย์ร่วมปฏิบัติการกับองค์การสหประชาชาติ เพื่อช่วยเหลือประเทศซิมบับเวควบคุมการระบาดของโรคอหิวาตกโรค ที่มีผู้ป่วย 13,960 รายในขณะนี้ เนื่องจากไทยมีประสบการณ์เรื่องนี้อย่างดี โดยได้ประสานกระทรวงการต่างประเทศและองค์การอนามัยโลกแล้ว ความช่วยเหลือของไทยครั้งนี้ จะจัดส่งหน่วยแพทย์ควบคุมโรคเคลื่อนที่เร็ว รวมทั้งหมด 9 คน ประกอบด้วย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยา เพื่อควบคุมป้องกันโรค 5 คน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลรักษาผู้ป่วย 2 คน และพยาบาล 2 คน โดยมีนายแพทย์คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา เป็นหัวหน้าทีม และนำยา วัคซีน คลอรีนชนิดเม็ดเพื่อฆ่าเชื้อโรคในน้ำ ชุดตรวจเชื้อภาคสนามเพื่อหาผู้ติดเชื้ออหิวาตกโรคที่ยังไม่แสดงอาการป่วย เจลล้างมือฆ่าเชื้อโรคที่ติดบริเวณมือโดยไม่ต้องใช้น้ำ ซึ่งเหมาะกับสถานการณ์ของประเทศซิมบับเวที่กำลังขาดแคลนน้ำสะอาดใช้ ไปมอบด้วย โดยกระทรวงสาธารณสุขจะประชุมความพร้อมของหน่วยแพทย์ควบคุมโรคเคลื่อนที่เร็วในบ่ายนี้ และเตรียมพร้อมเดินทางทันที เมื่อองค์การอนามัยโลกร้องขอมา สำหรับโรคอหิวาตกโรค จัดเป็นโรคติดเชื้อทางระบบทางเดินอาหารที่มีความรุนแรง กระทรวงสาธารณสุขไทยถือว่า อหิวาตกโรคเป็นโรคติดต่อประจำถิ่นที่แพร่ระบาดได้รวดเร็วและมีผลกระทบสูง ต้องควบคุมป้องกันโรคให้ได้ผลอย่างจริงจัง และรายงานโรคอย่างรวดเร็ว โปร่งใส ภายใน 24 ชั่วโมง สิ่งที่ประชาชนจะต้องปฏิบัติในการป้องกันไม่ให้เกิดโรคนี้ ขอให้ยึดหลักการคือ กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ ใช้ช้อนกลางตักอาหาร ล้างมือให้สะอาดก่อนกินอาหารและหลังจากใช้ห้องน้ำห้องส้วมทุกครั้ง ประการสำคัญ ขอให้ถ่ายอุจจาระลงส้วม ซึ่งเป็นวิธีป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายได้ดีที่สุด เพราะหากผู้ที่ถ่ายอุจจาระติดเชื้ออหิวาตกโรค เชื้อจะปนออกมากับอุจจาระ โดยในอุจจาระของผู้ป่วยโรคอหิวาต์จำนวน 1 ซี.ซี. จะมีเชื้ออหิวาต์ 1 พันล้านตัว และเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว ซึ่งโรคนี้สามารถติดเชื้อซ้ำได้อีก หากกินอาหารที่ไม่สะอาด มีเชื้อปนเปื้อนเข้าไป ทั้งนี้สถานการณ์โรคอหิวาตกโรคของไทยล่าสุดในปี 2551 มีผู้ป่วยรวม 244 ราย เสียชีวิต 3 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยต่างชาติที่เข้ามาใช้แรงงานในไทย โดยไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ นายแพทย์ปราชญ์กล่าว ************************** 11 ธันวาคม 2551