กรมอนามัย มีความห่วงใยผลกระทบทางสุขภาพประชาชนจากเหตุการณ์ลักลอบสะสมกากแคดเมียมจำนวนมากในโรงงานรีไซเคิล จังหวัดชลบุรี ซึ่งมีความเสี่ยงเกิดการปนเปื้อนสารพิษลงในสิ่งแวดล้อมโดยรอบ จนทำให้เกิดความเสี่ยงสุขภาพประชาชนที่อาศัยโดยรอบ จึงมอบหมายทีม SEhRT ศูนย์อนามัยที่ 6 ชลบุรี ลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานภาคสาธารณสุขในพื้นที่ทั้ง สสจ. สสอ. และ สคร. ประเมินความเสี่ยงทั้งด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนในการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัย

           แพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงเหตุการณ์ลักลอบสะสมกากแคดเมียม  และกากสังกะสีในจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา มีลักษณะคล้ายคลึงกับสถานการณ์พบการเก็บสะสมกากแคดเมียมกว่า 3,000 ตัน ที่จังหวัดชลบุรี ทำให้ประชาชนที่อาศัยโดยรอบมีความเสี่ยงได้รับผลกระทบจากสารพิษ หากกากแคดเมียมปนเปื้อนในแหล่งน้ำอุปโภค บริโภค และแหล่งอาหารของคนในชุมชน กรมอนามัย จึงเร่งส่งทีม SEhRT ศูนย์อนามัยที่ 6 ชลบุรี ลงพื้นที่ปฏิบัติการร่วมกับหน่วยงานภาคการสาธารณสุข ประกอบด้วยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอและสำนักงานควบคุมโรคในจังหวัดชลบุรี ทำการเฝ้าระวังความเสี่ยงสุขภาพประชาชนจากสารพิษที่อาจปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมในชุมชนโดยสำรวจ ประเมิน และเฝ้าระวังด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมทั้งการเก็บตัวอย่างน้ำใช้ครัวเรือน  น้ำประปาชุมชน น้ำประปาหมู่บ้าน และอาหาร พืช ผักที่จำหน่ายในตลาดและร้านค้าต่าง ๆ รวมทั้งทำการประเมินอาการเฝ้าระวังภาวะเจ็บป่วยของประชาชนที่อาศัยรอบโกดังที่เก็บสะสมกากแคดเมียมดังล่าวเพื่อให้การช่วยเหลือส่งต่อ และรักษาอย่างถูกต้องหากพบความผิดปกติทางสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับสารพิษ

          “ทั้งนี้ ทีม SEhRT ศูนย์อนามัยที่ 6 ชลบุรี รายงานข้อมูลว่า โรงงานรีไซเคิลแห่งนี้เป็นโรงงานที่มีการประกอบกิจการนำเข้าขยะมารีไซเคิลโดยไม่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายหลายฉบับ ทั้งในส่วนใบอนุญาตการประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2355 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อีกทั้งโรงงานแห่งนี้ยังเคยมีการปล่อยน้ำเสียออกจากโรงงานลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะในชุมชน และเกิดกรณีการร้องเรียนที่ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ จากการประเมินความเสี่ยงทางสุขภาพเบื้องต้น ยังไม่พบประชาชนในพื้นที่มีอาการแสดงหรือผลทางสุขภาพ มีเพียงความกังวลต่อการสะสมกากแคดเมียมและสังกะสังที่สะสมไว้ในโรงงานจำนวนมากที่อาจได้รับผลกระทบทางสุขภาพในระยะยาว ส่วนผลตรวจสอบการปนเปื้อนสารแคดเมียมในตัวอย่าง น้ำผิวดิน น้ำอุปโภค บริโภค ของประชาชนในครัวเรือนและชุมชน ที่เก็บโดยทีม SEhRT ศูนย์อนามัยที่ 6 ชลบุรี และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ชลบุรีอยู่ระหว่างการส่งตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ คาดว่าจะทราบผลใน 2 สัปดาห์” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

          แพทย์หญิงอัจฉรา กล่าวในตอนท้ายว่า กรมอนามัย ขอความร่วมมือหน่วยงานภาคการสาธารณสุขทุกพื้นที่ร่วมกันกำหนดมาตรการวางแผนการเฝ้าระวังผลกระทบทางสุขภาพต่อประชาชน พร้อมทั้งให้มีการเฝ้าระวังด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมในชุมชนโดยรอบอย่างต่อเนื่อง เน้นการตรวจวิเคราะห์สารแคดเมียมและสังกะสีปนเปื้อนน้ำอุปโภคบริโภค น้ำประปาชุมชน หรือประปาหมู่บ้าน และเก็บตัวอย่างอาหาร พืชผักที่จำหน่ายในตลาด เพื่อเฝ้าระวังการปนเปื้อนในแหล่งอาหาร ตลอดจนเน้นย้ำการสื่อสารความเสี่ยงสุขภาพประชาชนให้หมั่นสังเกตความผิดปกติของอาหารและน้ำที่รับประทานเป็นประจำ และหลีกเลี่ยงการใช้น้ำหรือกินอาหารกรณีที่พบการปนเปื้อน เพื่อลดความเสี่ยงสุขภาพของประชาชน

***

กรมอนามัย / 7 เมษายน 2567



   
   


View 107    07/04/2567   ข่าวในรั้ว สธ.    สำนักสารนิเทศ