กรมอนามัย วางแผนพัฒนาต่อเนื่อง ขยายผลส้วมสาธารณะจากมาตรฐานสะอาด เพียงพอ ปลอดภัย ให้เป็นส้วมสร้างสุข ที่คำนึงถึงความสุขของผู้ใช้ ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม เผยที่ประชุมส้วมโลกชี้พฤติกรรมของผู้ใช้บริการ มีส่วนสำคัญที่จะลดความเสี่ยงการติดโรค หรืออุบัติเหตุจากการใช้ส้วม จึงต้องรณรงค์ควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้มีส้วมสาธารณะที่ได้มาตรฐาน นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ข้อมูลที่ได้จากการประชุมชี้ให้เห็นว่า การออกแบบโครงสร้างของส้วม การจัดการความสะอาด และพฤติกรรมของผู้ใช้บริการ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะลดความเสี่ยงจากเชื้อโรคและอุบัติเหตุการใช้ส้วมสาธารณะ รวมทั้งก่อให้เกิดความรู้สึกที่เป็นสุขเมื่อใช้ส้วม นอกจากนี้ ข้อมูลของนักวิชาการของภาควิชาจุลชีววิทยา มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ยังพบว่าอากาศในห้องส้วมมักจะมีเชื้อโรคปะปนอยู่ และสามารถก่อให้เกิดโรคได้ ซึ่งการปนเปื้อนของเชื้อโรคในอากาศนั้น เกิดมาจากพฤติกรรมการใช้ส้วมของคน รูปแบบการราดน้ำ การระบายอากาศ และการดูแลความสะอาดที่ไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้น ในการพัฒนาส้วมสาธารณะของไทย นอกจากจะดำเนินการตามมาตรฐาน HAS คือ สะอาด (Healthy) เพียงพอ (Accessibility) และปลอดภัย (Safety) ซึ่งส่งผลต่อสุขอนามัยที่ดีของผู้ใช้แล้ว ในขั้นต่อไปจะขยายผลให้เป็นส้วมสร้างสุข (Happy toilet) คือส้วมที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในทุกด้าน ประหยัดพลังงาน และรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน โดยใช้หลักธรรมชาติเข้ามาผสมผสาน เช่น ออกแบบให้มีการระบายอากาศที่ดีไม่มีกลิ่นเหม็น ใช้แสงสว่างจากดวงอาทิตย์แทนไฟฟ้า ใช้สุขภัณฑ์ที่ประหยัดน้ำและการบำรุงรักษาต่ำ จัดวางสุขภัณฑ์ในตำแหน่งที่เหมาะสม รวมทั้งมีระบบกำจัดของเสียโดยไม่เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับพฤติกรรมที่ถูกต้องในการใช้ส้วมนั้น เป็นเรื่องที่ต้องเร่งรณรงค์ให้ผู้ใช้บริการรับรู้ ตระหนัก และปฏิบัติจนเป็นนิสัย ทั้งวิธีการใช้ส้วมแบบต่างๆ เช่น ส้วมนั่งยอง ส้วมนั่งราบ การราดน้ำหลังใช้ส้วม ตรวจสอบความสะอาดก่อนออกจากส้วม และที่สำคัญที่สุดคือ การล้างมืออย่างถูกวิธีหลังจากใช้ส้วม ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงทั้งการรับและการแพร่เชื้อโรค จากการใช้มือสัมผัสวัสดุต่างๆ ในห้องส้วม นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะรณรงค์ให้ทุกฝ่ายเห็นความสำคัญ ในการจัดให้มีส้วมสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ ในทุกสถานที่ด้วย โดยเริ่มจากหน่วยงานและสถานบริการที่อยู่ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขก่อนเป็นลำดับแรก โดยในวันนี้ (18 พฤศจิกายน 2549) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการประชุมส้วมโลก กรมอนามัยจะได้นำคณะผู้เข้าร่วมประชุมทั้งชาวไทยและต่างชาติ จำนวน 550 คน เดินทางไปศึกษาดูงานส้วมสาธารณะต้นแบบ ที่มีการจัดการที่ดี 8 แห่ง ได้แก่ ตลาดสดมหาชัยเมืองใหม่ และโรงเรียนวัดท่าเสา จ.สมุทรสาคร ตลาดสดรังสิต และบ้าน ชีวาทิตย์ จ.ปทุมธานี วัดท่าการ้อง จ.พระนครศรีอยุธยา ซาฟารีเวิลด์ สวนสราญรมย์ เขตพระนคร และสำนักงานเขตสะพานสูง กทม. รวมทั้งศึกษาดูงานการจัดการสิ่งปฏิกูล ของเทศบาลนครนนทบุรี ซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ให้ความสำคัญและมีระบบจัดการสิ่งปฏิกูลตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยนำไปหมักเป็นปุ๋ย เพื่อใช้ในการเกษตร สำหรับการประชุมส้วมโลกครั้งต่อไป มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 กันยายน พ.ศ. 2550 ที่หอวิทยาศาสตร์ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน


   
   


View 14    18/11/2549   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ