“สสจ.กาฬสินธุ์” พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือการดำเนินงานด้านสาธารณสุข และการขับเคลื่อนโครงการใช้โปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแบบเข้มข้นต่อการเข้าสู่เบาหวานระยะสงบในผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2

วันที่ 19 เมษายน 2567 เวลา 10.00 น. นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือการดำเนินงานด้านสาธารณสุข และการขับเคลื่อนโครงการใช้โปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแบบเข้มข้นต่อการเข้าสู่เบาหวานระยะสงบในผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 (Diabetes Remission) จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวรายงานโดยนายแพทย์วิทยา วัฒนเรืองโกวิท นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมี นายรุจติศักดิ์  รังษี  รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์  หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) บรรยายพิเศษ เรื่อง แนวทางการดำเนินงานโรงเรียนเบาหวานในชุมชน  โดย ดร.สม นาสอ้าน รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้เข้าร่วมพิธีประกอบด้วยคณะผู้บริหาร จากทุกภาคส่วนราชการ ภาคเอกชน ประกอบด้วย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ สำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เทศบาลตำบลทุกตำบลในจังหวัดกาฬสินธุ์ องค์การบริหารส่วนตำบลทุกตำบลในจังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 151 คน

ทั้งนี้ เพื่อให้สถานบริการสาธารณสุขมีการดำเนินงานจัดการโรคเบาหวานเข้าสู่เบาหวานระยะสงบ   เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี ลดและชะลอการเกิดเบาหวานรายใหม่   เพื่อให้กลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ลดและชะลอการเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรค  และเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาผู้ป่วยเบาหวานปัจจุบันโรคเบาหวานเป็นปัญหาสำคัญของโรคไม่ติดต่อเรื้อรังทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยทั่วโลกพบเป็นสาเหตุการเสียชีวิต 1 ใน 5 ของการเสียชีวิตทั้งหมด จากข้อมูลของสหพันธ์โรคเบาหวานนานาชาติ รายงานทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคเบาหวาน 537 ล้านคน และมากกว่าร้อยละ 90 เป็นชนิดที่ 2 โดยกว่าครึ่งหนึ่งยังไม่ได้รับการวินิจฉัย  ประเทศไทยข้อมูล Health Data Center กระทรวงสาธารณสุข ในปี พ.ศ. 2566 พบผู้ป่วยเบาหวานรายใหม่ 3 แสนคน และสะสม 3.4 ล้านคนโดยผู้ป่วยร้อยละ 70 ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมได้ ปัจจัยเสี่ยงของโรคเบาหวานเกิดจากกรรมพันธุ์ การมีภาวะอ้วน เป็นโรคความดันโลหิตสูง การชอบรับประทานอาหารรสหวาน การมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง สูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคเบาหวาน ทำได้โดยการเลือกรับประทานอาหารให้หลากหลาย เน้นผัก ผลไม้ และ ธัญพืชต่างๆ ลดอาหารประเภทหวาน มัน เค็ม ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทำจิตใจให้แจ่มใส นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 7- 8 ชั่วโมงต่อวัน ไม่สูบบุหรี่ และงดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างถูกต้อง  โดยไม่ต้องใช้ยาลดระดับน้ำตาลสามารถทำให้ผู้ป่วยเข้าสู่เบาหวานระยะสงบได้