กระทรวงสาธารณสุข ส่งหน่วยแพทย์พยาบาลไทย พร้อมยา เวชภัณฑ์ ดูแลสุขภาพชาวไทยมุสลิม 11,000 คน ที่เดินทางไปร่วมแสวงบุญในพิธีฮัจย์ ประจำปี 2549 ฟรี โดยหน่วยแพทย์จะอยู่บริการจนเสร็จสิ้นพิธี เผยปีที่ผ่านมามีผู้แสวงบุญเจ็บป่วยกว่า 10,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัด ผิวหนังแห้งแตก จากสภาพอากาศหนาวเย็น นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในทุกๆ ปีจะมีชาวมุสลิมกว่า 100 ประเทศทั่วโลก 2-3 ล้านคนเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ที่เมืองเมกกะห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยในปีนี้มีพี่น้องชาวไทยมุสลิมเดินทางไปเข้าร่วมประกอบศาสนกิจดังกล่าว จำนวน 11,000 คน ในปีนี้อยู่ระหว่างวันที่ 22 พฤศจิกายน 2549-31 มกราคม 2550 เนื่องจากผู้ไปแสวงบุญที่เข้าร่วมพิธีฮัจย์ มาจากหลายภูมิภาคของโลก และอาศัยอยู่รวมกันอย่างหนาแน่น แออัด เป็นเวลาถึง 2-6 สัปดาห์ มีโอกาสเกิดโรคระบาดได้ โดยเฉพาะโรคติดเชื้อระบบทางเดินอาหารและโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่นและโรคไข้หวัดใหญ่ ก่อนเดินทาง เมื่อเดือนสิงหาคม-กันยายน 2549 ที่ที่ผ่านมา เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันล่วงหน้า และจัดหน่วยแพทย์พยาบาลไทยจำนวน 25 คน ประกอบด้วย แพทย์ เภสัชกร พยาบาลวิชาชีพ พยาบาลเทคนิค เจ้าหน้าที่สาธารณสุข พร้อมยาและเวชภัณฑ์ เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ ให้การดูแลรักษาพยาบาลชาวไทยมุสลิมที่เมืองเมกกะห์ฟรีด้วย มีนายแพทย์วิรุฬห์ พรพัฒน์กุล เป็นหัวหน้าหน่วย โดยแบ่งออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกจะเดินทางในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2549 และชุดที่ 2 เดินทางในวันที่ 12 ธันวาคม2549 โดยที่ทำการหน่วยพยาบาลไทยตั้งอยู่ที่อาคารจัฟฟาลี เมืองเมกกะห์ นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากข้อมูลการเจ็บป่วยของชาวไทยมุสลิมที่เดินทางไปประกอบศาสนกิจ ที่รับบริการที่หน่วยพยาบาลไทยในปี 2548 มีผู้มารับบริการ 10,124 ราย ส่วนใหญ่เป็นโรคทางเดินหายใจ พบร้อยละ 83 รองลงมาคืออาการปวดเมื่อยร้อยละ 5 และโรคผิวหนัง ผื่นคันร้อยละ 2 โดยอาการของผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ จะมีอาการไอเป็นอาการหลัก เนื่องจากสภาพภูมิอากาศมีความหนาวเย็นและแห้งมาก ทำให้ระบบทางเดินหายใจเกิดการระคายเคืองได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ในการป้องกันตนเองไม่ให้ป่วยจากโรคติดต่างๆ ระหว่างประกอบพิธีฮัจย์ เช่น ไข้หวัด การแพ้อากาศ ขอให้ชาวไทยมุสลิมใช้ผ้าปิดปากปิดจมูกทุกครั้งที่อยู่ใกล้ผู้ป่วยหรือสงสัยว่าป่วยด้วยโรคหวัด หรือผู้ที่มีอาการไอ จาม โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหอบหืด โรคเบาหวาน ขอให้ไป ตรวจสุขภาพก่อนไปและเตรียมยาประจำตัวเฉพาะที่จำเป็นไปให้เพียงพอ หากรู้สึกอ่อนเพลีย มีอาการผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์ที่หน่วยพยาบาลไทยทันที นายแพทย์ปราชญ์กล่าว พฤศจิกายน 6/1 ***************************** 21 พฤศจิกายน 2549


   
   


View 13    21/11/2549   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ