สธ.เตือนประชาชน “อย่า”ลงเล่นน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ ที่มีสัตว์ปีกอาศัยอยู่

มิสเตอร์ไข้หวัดนกกระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชน อย่าลงเล่นน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น ลำคลอง หนองน้ำ บึง ที่มีสัตว์ปีก ทั้งนก เป็ด อาศัยอยู่ เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดนก ชี้หากจำเป็นต้องลงน้ำเพื่อทำงานหรือหาปลา ขอให้ระวังอย่าให้น้ำเข้าตา เข้าปาก เนื่องจากหากมีเชื้อไข้หวัดนกจะสามารถอยู่ในน้ำได้นาน 17 วัน พร้อมแนะคนให้อาหารนกพิราบ ควรโยนอาหารไปให้ไกลๆ จากกรณีที่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้บึงหนองคอกควาย หนองน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ใน ต.ไผ่ขวาง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่ามีฝูงนกเป็ดแดง อาศัยอยู่ที่บริเวณหนองน้ำดังกล่าว นับหมื่นตัว ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัวว่าอาจนำเชื้อโรคไข้หวัดนกไปแพร่ได้ เนื่องจากในอดีตหนองน้ำแห่งนี้ไม่เคยมีนกมาอาศัยอยู่ ความคืบหน้าในเรื่องนี้ นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะมิสเตอร์ไข้หวัดนกของกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ไม่อยากให้ประชาชนตื่นกลัวกับฝูงนกธรรมชาติ แต่ขอให้ตระหนักถึงการป้องกันตัวเอง ไม่ให้ติดเชื้อไข้หวัดนกจากสัตว์ปีกดังกล่าวให้มากๆ อย่าสัมผัสมูลหรือสิ่งคัดหลังต่างๆ ของนกหรือสัตว์ปีกอื่นๆ โดยขอให้หลีกเลี่ยงการลงเล่นน้ำ ว่ายน้ำ ในบึง ลำคลอง หรือหนองน้ำ ที่มีนกธรรมชาติต่างๆ เช่น นกเป็ดน้ำหรือสัตว์ปีกอื่นเช่นเป็ด แต่ถ้าต้องลงไปในน้ำเพื่อทำงานหรือหาปลา ก็ขอให้ระมัดระวังอย่างให้น้ำเข้าปาก เข้าตา เนื่องจากนกจะถ่ายมูลลงในน้ำ ซึ่งหากมีเชื้อไวรัสไข้หวัดนก เชื้อในน้ำจะทนทานกว่าที่แห้ง โดยสามารถมีชีวิตอยู่ในน้ำได้นานถึง 17 วัน รวมทั้ง ห้ามนำน้ำจากบึง หรือแม่น้ำลำคลอง ที่มีสัตว์ปีกอาศัยอยู่ มาใช้หรือดื่ม เนื่องจากอาจมีการปนเปื้อนมูลสัตว์ปีกได้ ทางด้านนายแพทย์ หม่อมหลวงสมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ตามเขตเมืองหรือในชนบทบางแห่งจะมีฝูงนกพิราบอาศัยอยู่ นับเป็นเหตุรำคาญชนิดหนึ่ง โดยในมูลนกพิราบอาจจะมีเชื้อราอยู่ เชื้อดังกล่าวจะเจริญเติบโตได้ดีในที่อับชื้น แสงแดดส่องไม่ถึง ผู้ที่มีสุขภาพไม่ดี มีภูมิต้านทานโรคต่ำ เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไต โรคหอบหืดไม่ควรไปคลุกคลีกับนก หรืออยู่ใกล้นก โดยเฉพาะผู้ที่ชอบให้อาหารนกพิราบ จะต้องโยนอาหารออกไปให้ไกลตัวที่สุด ประการสำคัญ ขอให้ประชาชนหมั่นล้างมือบ่อยๆ ภายหลังหยิบจับสิ่งของหรือใกล้ชิดสัตว์ปีก ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยกำจัดเชื้อโรคที่ติดมากับมือออกไปได้มากกว่าร้อยละ 80 ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เฝ้าระวังการติดเชื้อไข้หวัดนกในคนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับหมู่บ้านชุมชน และในกลุ่มผู้ป่วยโรคปอดบวม โรคปอดอักเสบที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลทั่วประเทศ และมีประวัติอยู่ในพื้นที่เสี่ยง จนถึงขณะนี้ยังไม่พบการติดเชื้อไข้หวัดนกในคนแต่อย่างใด และเป็นเวลานานกว่า 2 ปีแล้ว *********************************** 27 มกราคม 2552