สาธารณสุข เร่งพัฒนามาตรฐานสถานบริการสาธารณสุขทุกระดับ ประกันความมั่นใจคนไทย ตั้งเป้าปี 2552 พัฒนาศูนย์สุขภาพชุมชนและโรงพยาบาล ให้มีคุณภาพมาตรฐานระดับ 5 ดาว 1,160 แห่ง ประชาชนจะได้รับความพึงพอใจในทุกจุดที่รับบริการ จัดระบบบริการช่องทางด่วนพิเศษผู้ป่วยโรคหัวใจในพื้นที่ และนำร่องหารูปแบบระบบบริการสุขภาพผู้สูงอายุที่เหมาะสมที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อรับมือการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทย เช้าวันนี้ (28 มกราคม 2552) ที่ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กทม. นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดประชุมวิชาการเรื่องการพัฒนาระบบบริการสุขภาพสู่ทศวรรษหน้า เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย ผู้ตรวจราชการ สาธารณสุขนิเทศก์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และผู้แทนโรงพยาบาลสังกัดกรมแพทย์ทหารบก ทหารอากาศ และทหารเรือ รวม 500 คน ได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และนวัตกรรมด้านการบริหารและการบริการของสถานบริการสุขภาพ และนำไปประยุกต์ใช้ในสถานพยาบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ นายวิทยากล่าวว่า ต้องยอมรับว่า ปัจจุบันประชาชนมีความคาดหวังต่อบริการจากหน่วยงานรัฐมากขึ้น ต้องการบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และสามารถเข้าถึงบริการอย่างสะดวกรวดเร็ว ได้มอบนโยบายให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เตรียมความพร้อมระบบบริการรองรับการรักษาพยาบาลใน 10 ปีข้างหน้า โดยพัฒนาคุณภาพ มาตรฐานระบบบริการสุขภาพของสถานบริการสาธารณสุขทุกระดับ ทั้งด้านการบริหารจัดการ และการบริการให้ได้ในระดับ 5 ดาว ในปี 2552 นี้ มีเป้าหมายพัฒนามาตรฐานบริการของสถานพยาบาล 1,160 แห่ง ประกอบด้วย สถานีอนามัยและศูนย์สุขภาพชุมชน จำนวน 1,100 แห่ง และโรงพยาบาล 60 แห่ง โดยสถานีอนามัยและศูนย์สุขภาพชุมชนจะเน้นการดูแลรักษาโรคขั้นพื้นฐาน ให้บริการเชิงรุกในชุมชน ส่งเสริมการคิดค้นนวัตกรรมการบริการในหมู่บ้านให้เหมาะกับวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยพัฒนาสถานีอนามัยต้นแบบของการสร้างสุขภาวะแบบมีส่วนร่วมนำร่อง 35 แห่ง รวมทั้งการดูแลฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วยหลังออกจากโรงพยาบาลแล้ว สำหรับโรงพยาบาล จะเน้นการพัฒนาระบบบริการดูแลรักษาผู้ป่วย ประกันคุณภาพว่าผู้ป่วยจะได้รับความพึงพอใจในทุกจุดที่รับบริการ ซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 15 จุดบริการ เช่น ผู้ป่วยนอก ห้องทำฟัน ห้องยา ห้องอีอาร์ ห้องคลอด ห้องผ่าตัด หอผู้ป่วยใน ห้องแล็บ ห้องเอ็กซเรย์ รวมทั้งหน่วยสนับสนุนงานบริการ เช่น งานซักฟอก งานการเงิน เวชระเบียน นำร่องสมบูรณ์แบบ 60 แห่งกระจายทุกภาค พัฒนาการให้บริการผู้ป่วยโรคหัวใจและระบบส่งต่อช่องทางด่วนพิเศษ ซึ่งมีผู้ป่วยปีละประมาณ 200,000 ราย ให้ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ จะให้โรงพยาบาลเป็นต้นแบบอาหารปลอดภัย และการบริหารจัดการด้านอาหาร เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับอาหารที่มีคุณภาพ และตรงกับโรค ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยหายเร็วยิ่งขึ้น ทางด้านนายแพทย์สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ในปี 2552 กรมสนับสนุนฯจะพัฒนารูปแบบบริหารจัดการระบบบริการสุขภาพและสวัสดิการสังคมสำหรับผู้สูงอายุ เนื่องจากขณะนี้สังคมไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมของผู้สูงอายุแล้ว มีผู้สูงอายุประมาณ 7 ล้านคน หรือร้อยละ 11 ของคนทั้งประเทศ และเป็นวัยแห่งความเสื่อม ร้อยละ 80 มีโรคประจำตัว จะต้องมีการพัฒนารูปแบบบริการดูแลที่เหมาะสม เริ่มนำร่องที่อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ก่อนขยายผลไปยังทั่วประเทศต่อไป *************************** 28 มกราคม 2552


   
   


View 9    28/01/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ