“สธ.” ใช้งบกว่า 1 พันล้านบาทปรับปรุงสถานีอนามัย 2,609 แห่ง เพิ่มความสะดวกผู้พิการและผู้สูงอายุ

กระทรวงสาธารณสุข ขอใช้งบกลางปีกว่า 1 พันล้านบาท ต่อเติมชั้นล่างสถานีอนามัย 2,609 แห่งทั่วประเทศ ให้เป็นพื้นที่ให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุและผู้พิการ และส่งผลให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคตามนโยบายรัฐบาล บ่ายวันนี้ (10 กุมภาพันธ์ 2552) ที่กระทรวงสาธารณสุข นนทบุรี นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังมอบนโยบายการปรับปรุงสถานีอนามัยเพื่อรองรับบริการประชาชน ให้เข้าถึงบริการที่รวดเร็ว สะดวก และปลอดภัย แก่นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้สำรวจสถานีอนามัยซึ่งมีกว่า 9,000 แห่งทั่วประเทศ พบว่ามี 2,609 แห่ง ที่ยังเป็นอาคาร 2 ชั้นใต้ถุนโล่ง ทำให้ผู้สูงอายุและผู้พิการไม่สะดวกที่จะขึ้นไปรับบริการตรวจรักษาพยาบาล จึงมีนโยบายให้ปรับปรุงชั้นล่างของอาคาร เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้บริการ และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้พิการ รวมทั้งยังเป็นการกระจายการจ้างงานสู่ชนบทด้วย นายวิทยา กล่าวต่อไปว่า นับเป็นความโชคดีของกระทรวงสาธารณสุข ที่รัฐบาลมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค โดยเบื้องต้นได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 1,095,780,000 บาท ให้ต่อเติมชั้นล่างของสถานีอนามัยทั้ง 2,609 แห่ง ขณะนี้การจัดทำคำของบประมาณดังกล่าว ได้ผ่านวาระที่ประชุมของกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาแล้ว เมื่องบประมาณจำนวนนี้ผ่านสภาผู้แทนราษฎรวาระที่ 2,3 แล้ว จะสามารถเริ่มดำเนินการก่อหนี้ผูกพันได้ประมาณเดือนเมษายนนี้ ซึ่งการต่อเติมสถานีอนามัยแต่ละแห่ง ยังส่งผลดีให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ ทำให้ผู้ว่างงานมีงานทำ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้อีกทางหนึ่ง ทางด้านนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในการประชุมวันนี้ได้เน้นย้ำให้ผู้บริหารทุกจังหวัด เตรียมพร้อมในการดำเนินงานจัดซื้อจัดจ้างและเบิกจ่ายงบประมาณให้ทันตามระยะเวลาที่กำหนด โดยมอบนโยบายให้มีการจัดซื้อจัดจ้างที่รวดเร็ว โปร่งใส ถูกต้องตามระเบียบพัสดุ และกระจายลงส่วนภูมิภาคมากที่สุด ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขจะนำประเด็นที่เป็นปัญหาในจังหวัด เกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานที่ชัดเจนตามที่นายแพทย์สาธารณสุขสอบถาม ไปหารือกรมบัญชีกลางเพื่อให้เข้าใจตรงกันและถือเป็นแนวปฏิบัติที่ถูกต้องต่อไป ********************* 10 กุมภาพันธ์ 2552