สธ. เพิ่มความเข้มแข็งระบบตรวจสอบการใช้งบประมาณหน่วยงานในสังกัด ลดข้อผิดพลาด กระทรวงสาธารณสุข เพิ่มความเข้มแข็งระบบการตรวจสอบการใช้เงินงบประมาณของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขได้มาตรฐาน ถูกต้อง โปร่งใส และช่วยผู้ตรวจสอบ ป้องกันการการกระทำที่ทุจริตของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สร้างความขาวสะอาดหน่วยงาน ลดข้อทักท้วงที่ส่อไปทางการทุจริตจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง เช้าวันนี้ (28 พฤศจิกายน 2549) นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการสัมมนาเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานตรวจสอบเอกสารการเงินการคลังของหน่วยงาน ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายใน ผู้แทนกองคลังทุกกรม เจ้าหน้าที่บริหารงานสาธารณสุขจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปทุกเขต ประมาณ 150 คน ที่โรงแรมริชมอนด์ จ. นนทบุรี เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของผู้ตรวจสอบภายใน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายเงินงบประมาณทั้งหมดของหน่วยงานทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อเพิ่มความแม่นยำ ลดข้อผิดพลาด และป้องกันการกระทำส่อไปในทางทุจริตของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวว่า งานตรวจสอบภายในเป็นงานที่มีความสำคัญมาก เพราะเป็นการตรวจสอบความถูกต้องของการใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน ว่ามีการใช้ตรงตามแผนงาน/โครงการหรือไม่ หากมีความเข้มแข็งจะช่วยควบคุมการปฏิบัติงานขององค์กร ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ และปัญหาในการปฏิบัติงานให้น้อยลง และเพื่อสนองแนวนโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบันเน้น 4 ป. คือ ประหยัด ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และโปร่งใส ในอนาคต สามารถเป็นเครื่องมือสำหรับผู้บริหาร ในการนำผลการตรวจสอบไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจ ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ อย่างไรก็ตามคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ ประจำกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีทั้งหมด 7 คน และมีนายพายัพ พยอมยนต์ เป็นประธาน ต้องการให้งานตรวจสอบของกระทรวงสาธารณสุขมีความเข้มแข็ง แม่นยำในระเบียบ กฎระเบียบในการใช้งบประมาณ โดยในปีงบประมาณ 2550 นี้กระทรวงสาธารณสุขได้รับการจัดสรรงบประมาณซึ่งไม่รวมเงินรายหัวทั้งหมด 62,305 ล้านกว่าบาท ทั้งนี้ในการเพิ่มความเข้มแข็งระบบการตรวจสอบครั้งนี้ จะดำเนินการในลักษณะเครือข่ายทั้งส่วนกลางและภูมิภาคได้แก่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งระบบการตรวจสอบการเงินระบบทั่วไปและระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งเงินบำรุงของสถานบริการ เนื่องจากขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะส่วนกลางมีข้อจำกัดคือ มีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในประจำกระทรวงสาธารณสุขน้อยเพียง 40 คน แต่ต้องรับผิดชอบตรวจสอบการเงินการคลังประมาณ 350 หน่วยเบิก จึงต้องเพิ่มความเข้มแข็งของหน่วยตรวจสอบต้นทางอีกชั้นหนึ่ง เป็นการส่งเสริมระบบการกำกับดูแลตนเองที่ดีของส่วนราชการ โดยนำระบบการตรวจสอบและประเมินผลในเชิงบวกมาใช้คือ เป็นผู้ให้คำปรึกษา แนะนำ ซึ่งจะทำให้ ผู้ปฏิบัติเกิดการเรียนรู้และปฏิบัติงานได้ถูกต้อง ข้อผิดพลาดจะไม่มีเกิดขึ้น สร้างความขาวสะอาดให้หน่วยงาน อีกทั้งลดข้อท้วงติงที่ส่อไปทางทุจริตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกด้วย นายแพทย์ปราชญ์ กล่าว พฤศจิกายน 8/1 ********************************* 28 พฤศจิกายน 2549


   
   


View 18    28/11/2549   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ