กระทรวงสาธารณสุข เผยโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ รายงานว่าโรคเอดส์กำลังคุกคามกลุ่มวัยรุ่นทั่วโลก คาดจะติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 40 ขณะที่ไทยพบกลุ่มนักเรียน/นักศึกษา ติดโรคหนองในเพิ่มขึ้นเป็น 2 คนต่อประชากรแสนคน บ่งชี้ว่ามีแนวโน้มเสี่ยงติดเอดส์เพิ่มขึ้น ใช้โอกาสวันวาเลนไทน์รณรงค์วัยรุ่นไทยมีค่านิยมความรักที่ถูกต้อง
บ่ายวันนี้ (13 กุมภาพันธ์ 2552) ที่อาคารสายสุทธานภดล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา กรุงเทพฯ นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์หม่อมหลวงสมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และรองศาสตราจารย์ ดร.ช่วงโชติ พันธุเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ร่วมเปิดงานรณรงค์ รักบริสุทธิ์และปลอดภัยออกแบบได้... ด้วยตัวคุณเอง (White Valentine
design your love) เพื่อสร้างกระแสให้ประชาชนโดยเฉพาะเยาวชนซึ่งมีพฤติกรรมเสี่ยงติดเชื้อเอดส์ ตระหนักว่าโรคเอดส์เป็นภัยใกล้ตัว ต้องรู้เท่าทันและป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโรคเอดส์ รวมทั้งโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ
นายมานิต กล่าวว่า ปัญหาโรคเอดส์เริ่มคืบคลานเข้าใกล้กลุ่มวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาวทั่วโลกมากขึ้น โดยโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) รายงานว่าในปี 2550 มีผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อทั่วโลกประมาณ 33.2 ล้านคน เสียชีวิตประมาณ 2.1 ล้านคน และคาดว่ากลุ่มเด็กวัยรุ่น อายุ 15-24 ปี จะมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 40 ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศที่มีรายได้ต่ำถึงปานกลาง โดยมีอัตราติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยวันละ 6,800 คน ส่วนประเทศไทย ตั้งแต่พ.ศ. 2527-31 มกราคม 2552 สำนักระบาดวิทยาได้รับรายงานผู้ป่วยเอดส์สะสมทั้งหมด 345,196 ราย เสียชีวิตแล้ว 93,034 ราย สาเหตุของการติดเชื้อร้อยละ 84 เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ ทั้งนี้ คณะผู้เชี่ยวชาญคาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11,753 ราย ซึ่งแนวโน้มผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเยาวชนและวัยรุ่น
กระทรวงสาธารณสุขจึงใช้โอกาสวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเทศกาลแห่งความรัก รณรงค์ให้ความรู้และสร้างความตระหนักพิษภัยของโรคเอดส์ในกลุ่มเยาวชน เนื่องจากส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับวันนี้อย่างมาก และอาจแสดงออกถึงความรักหรือมีพฤติกรรมที่นำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ตั้งใจกับคู่รัก ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาตามมา อาทิ ตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือโรคเอดส์ได้
ด้านนายแพทย์ หม่อมหลวงสมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังพฤติกรรมที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อเอชไอวีในนักเรียนชั้น ม.2 ม.5 และอาชีวะปี 2 ในช่วงปี 25472550 พบว่า แนวโน้มการเคยมีเพศสัมพันธ์สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่อัตราการใช้ถุงยางอนามัยกับแฟนหรือคนรัก ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าการใช้กับกลุ่มหญิงขายบริการ และหญิงอื่นมาก โดยพฤติกรรมการใช้ถุงยางอนามัย ในนักเรียนชายร้อยละ 45.5 จะพกถุงยางอนามัย ซึ่งส่วนใหญ่ได้มาจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และซื้อจากร้านสะดวกซื้อ ในขณะที่นักเรียนหญิง มีการพกถุงยางอนามัยเพียงร้อยละ 11 ส่วนใหญ่คู่นอนเตรียมมา และซื้อจากร้านสะดวกซื้อ
นอกจากนี้ ในปี 2550 ยังพบว่าสถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยมีผู้ป่วย 11,619 คน เป็นโรคหนองในมากที่สุด รองลงมาคือ หนองในเทียม และซิฟิลิส ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 20-24 ปี อาชีพที่พบมากคือ รับจ้าง ค้าประเวณี และกลุ่มนักเรียน/นักศึกษา โดยโรคหนองในซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงการแพร่ระบาดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่จะนำไปสู่การแพร่ระบาดของโรคเอดส์นั้น พบว่าในกลุ่มนักเรียน/นักศึกษามีอัตราป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 2 คนทุกประชากรแสนคน จึงได้ร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ รณรงค์ปรับเปลี่ยนค่านิยม สร้างทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับความรักและการมีเพศสัมพันธ์ให้กับกลุ่มวัยรุ่นอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งพัฒนารูปแบบการให้บริการที่เป็นมิตร เพื่อเอื้อให้เยาวชนใช้บริการสะดวก ใน 43 จังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งส่งเสริมการเข้าถึงถุงยางอนามัยผ่านเครื่องจำหน่ายถุงยางอนามัยอัตโนมัติด้วย
สำหรับงาน รักบริสุทธิ์และปลอดภัย ออกแบบได้...ด้วยตัวคุณเอง จะเน้นกิจกรรมที่ตรงใจกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเป็นเป้าหมายหลัก ได้แก่ การประกวดโปสเตอร์ สื่อ...รักบริสุทธิ์และรักปลอดภัย การประกวดผลงานความคิดสร้างสรรค์โดยใช้ถุงยางอนามัยเป็นส่วนประกอบ ทอล์คโชว์ อยากให้รักครั้งนี้...เป็นรักบริสุทธิ์และรักปลอดภัย โดย อ.จตุพล ชมภูนิช การแสดงของเบิร์ด เอกชัย แชมป์เยาวชนโลกกีตาร์อะคูสติก วงบี เพิร์จ วงบีบอย และศิลปินวงบุดดา เบลส พร้อมนิทรรศการให้ความรู้เรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ บริการให้คำปรึกษา ตรวจกรุ๊ปเลือดและซิฟิลิส และเกมส่งเสริมความรู้ และร่วมออกแบบสิ่งของ ความคิด และความรัก ด้วยตัวเยาวชนเอง
**************************** 13 กุมภาพันธ์ 2552
View 11
13/02/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ