กระทรวงสาธารณสุข จัดทีมแพทย์พยาบาลผู้เชี่ยวชาญ กว่า 500 คน เตรียมพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข พร้อมดูแลด้านสุขภาพอนามัย แก่ผู้เข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำประเทศอาเซียนซัมมิท ครั้งที่ 14 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม 2552 ที่ จังหวัดเพชรบุรี นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการศูนย์สั่งการทางการแพทย์และสาธารณสุข กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้เดินทางตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อรองรับงานประชุมสุดยอดผู้นำประเทศอาเซียนซัมมิท ครั้งที่ 14 ที่โรงพยาบาลหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขตั้งขึ้นเป็นศูนย์สั่งการ (War Room) ในการประสานงานปฏิบัติงานด้านการแพทย์ เมื่อมีการเจ็บป่วยเกิดขึ้น รวมทั้งการเฝ้าระวังโรคติดต่อ การดูแลด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม ทั้งอาหาร ที่พัก เพื่อให้การดูแลสุขภาพอนามัยแก่ผู้เข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำประเทศอาเซียนซัมมิท จากประเทศต่างๆ 10 ประเทศ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้นำประเทศและผู้ติดตาม มาไม่ต่ำกว่า 800 คน อย่างดีที่สุด นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวว่า จากการตรวจเยี่ยมในวันนี้ ทุกฝ่ายมีความพร้อมเต็มที่ โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้เตรียมการไว้ 4 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.การรักษาพยาบาล 2.สุขาภิบาลอาหารและอนามัยสิ่งแวดล้อม อาทิ การดูแลความปลอดภัยอาหาร ความสะอาดผู้ปรุงอาหาร โรงครัว ห้องพักในโรงแรมต่างๆ ที่ผู้เข้าร่วมประชุมใช้เป็นที่พัก 3.การป้องกันและเฝ้าระวังโรคต่างๆ อาทิ โรคอาหารเป็นพิษ โรคอุจจาระร่วง ไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น และ4.การสาธิตและบริการนวดแผนไทย ในด้านการรักษาพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข ได้ระดมแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ จากโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ได้แก่ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลเลิดสิน สถาบันโรคทรวงอก โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ โรงพยาบาลนครปฐม โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า จังหวัดสมุทรสงคราม โรงพยาบาลสมุทรสาคร โรงพยาบาลบ้านโป่ง โรงพยาบาลราชบุรี มากกว่า 500 คน แบ่งเป็น 72 ทีม โดยจัดหน่วยแพทย์พร้อมรถพยาบาล ประจำโรงแรมทุกแห่งที่ผู้นำประเทศและผู้เข้าร่วมประชุมเข้าพัก รวมทั้งสถานที่ประชุม ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เน้นความพร้อม 3 ด้าน ได้แก่ บุคลากร เครื่องมือแพทย์ และรถพยาบาลพร้อมเครื่องมือสื่อสารประสิทธิภาพสูง ทั้งหมด 11 คัน นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ได้ให้โรงพยาบาลหัวหินเป็นศูนย์สั่งการ ประสานการทำงานทีมแพทย์ทั้งหมด ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรองรับภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งให้เตรียมศูนย์ดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจ ห้องผ่าตัด และรถพยาบาลฉุกเฉินสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ จำนวน 2 คัน พร้อมทีมแพทย์ พยาบาล ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ โดยได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลราชวิถี และสถาบันโรคทรวงอก ส่วนด้านสุขาภิบาลอาหาร อนามัยสิ่งแวดล้อม และการควบคุมป้องกันโรค ได้เตรียมการทั้งก่อนการประชุมและระหว่างการประชุม โดยจะตรวจสอบในโรงแรมห้องพัก และสิ่งแวดล้อมรอบๆ โรงแรม สถานที่ประกอบอาหาร ตรวจสอบความปลอดภัยอาหารและน้ำ รวมทั้งผู้ประกอบและสัมผัสอาหารตามมาตรฐานสุขาภิบาลอาหาร ส่วนการป้องกันและควบคุมโรค มีการสำรวจและกำจัดแหล่งเพาะพันธ์ยุง แมลงกัดแทะ แมลงกลางคืน สุนัขจรจัด ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขมั่นใจในโรงแรมและสถานที่ประชุมที่ได้มาตรฐานสากลดีอยู่แล้ว แต่ก็เพื่อความไม่ประมาทและความรัดกุม นอกจากนี้ ยังได้มีการตรวจสอบความปลอดภัยอาหารและน้ำในบริเวณเทศบาลเมืองหัวหินเช่นกัน เพื่อความปลอดภัยของคณะผู้ติดตาม ประชาชนทั่วไป ตลอดจนสื่อมวลชนจากประเทศต่างๆ ที่เดินทางมาร่วมการประชุมฯ ในครั้งนี้ นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวในตอนท้าย ****************************************** 17 กุมภาพันธ์ 2552


   
   


View 9    17/02/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ