รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยโรงพยาบาลหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ประสบความสำเร็จในการพัฒนาสถานีอนามัยทั้ง 31 แห่ง เป็นโรงพยาบาลตำบล ภายใต้แนวคิด บ้านเป็นเตียงนอน พร้อมนำระบบสื่อสารทางไกลผ่านดาวเทียมใช้ในการรักษา สร้างความมั่นใจประชาชน เข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าตัวจาก 8.5 หมื่นครั้งต่อปี เป็นมากกว่า 2 แสนครั้งต่อปี วันนี้ (22 กุมภาพันธ์ 2552) ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโรงพยาบาลตำบล ที่โรงพยาบาลตำบลน้ำก้อ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ และการออกเยี่ยมบ้านดูแลผู้ป่วยอัมพาตของเจ้าหน้าที่ ที่หมู่ 12 บ้านคลองเหมืองใหม่พัฒนา ตำบลน้ำก้อ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ นายวิทยา กล่าวว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วยที่มารับการรักษาในโรงพยาบาลทุกระดับของกระทรวงสาธารณสุข พบว่าส่วนใหญ่จะป่วยด้วยโรคพื้นฐาน เช่น ไข้หวัด ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ กระเพาะอาหารอักเสบ ซึ่งเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้ที่สถานีอนามัย ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเสียค่ารถเดินทางไกลมาถึงโรงพยาบาลในอำเภอหรือจังหวัด กระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบายที่จะพัฒนาสถานีอนามัย ซึ่งเป็นสถานพยาบาลในสังกัดที่อยู่ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด และครอบคลุมทุกตำบล ให้เป็น โรงพยาบาลตำบล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการ ซึ่งจะทำให้คนไทยทุกคนได้รับบริการที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น และยังช่วยลดจำนวนผู้ป่วยที่แออัดในโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลจังหวัดลงได้มาก นายวิทยา กล่าวต่อว่า สำหรับอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ การดำเนินงานนับว่ามีความก้าวหน้าและเป็นตัวอย่างในการพัฒนาได้อย่างดี โดยโรงพยาบาลหล่มสักร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขอำเภอหล่มสัก ได้เริ่มพัฒนาศักยภาพสถานีอนามัยในเครือข่ายให้เป็นโรงพยาบาลตำบล ตั้งแต่ปี 2544 โดยให้ประชาชนและองค์การบริหารส่วนตำบล เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดและดูแลสุขภาพของตนเองและท้องถิ่น ภายใต้แนวคิดบ้านเป็นเตียงนอนผู้ป่วย (Home Ward) เมื่อเจ็บป่วยสามารถนอนที่บ้าน มีสมาชิกในครอบครัวเป็นผู้ดูแล โดยคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตำบล ขณะเดียวกันได้นำเทคโนโลยีทางไกล (Telemedicine) มาช่วยเพิ่มการเข้าถึงบริการ และจัดระบบคลังยา ระบบควบคุมและป้องกันการติดเชื้อ การบำบัดเพื่อฟื้นฟูสภาพในชุมชน รวมทั้งช่องทางด่วนพิเศษในการส่งต่อผู้ป่วย สร้างความมั่นใจให้ผู้ป่วยว่าจะได้รับการรักษามาตรฐานเดียวกันกับโรงพยาบาลอำเภอ นอกจากนี้ ยังได้ให้ประชาชนทุกคนในตำบลร่วมบริจาคเงินสมทบคนละ 2 บาทต่อเดือน เข้า “กองทุนสุขภาพโรงพยาบาลตำบล” ซึ่งเป็นเงินเล็กน้อยที่ไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน แต่ทำให้เกิดความรู้สึกมีส่วนร่วมและเป็นเจ้าของ โดยเงินจากกองทุนได้นำไปใช้ในการพัฒนาและแก้ปัญหาของชุมชน เช่น จัดซื้อเครื่องมือทันตกรรม เป็นทุนการศึกษาให้นักศึกษาพยาบาลและทันตาภิบาล เป็นต้น โดยขณะนี้อำเภอหล่มสักพัฒนาโรงพยาบาลตำบลครบทั้ง 31 แห่ง ครอบคลุม 22 ตำบล สามารถให้บริการผู้ป่วยทั้งโรคทั่วไปและโรคเรื้อรัง เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เอ็นข้อกระดูก โรคทางจิตประสาท ทันตกรรม ประชาชนมีความพึงพอใจและเชื่อมั่นมากขึ้น โดยเข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าตัว จาก 8.5 หมื่นครั้ง ในปี 2544 เป็นกว่า 2 แสนครั้งในปี 2551 ***************************************22 กุมภาพันธ์ 2552


   
   


View 9    22/02/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ