กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมการแพทย์ทหารเรือ มหาวิทยาลัยบูรพา และเครือข่ายคนไทยไร้พุง ชวนชาวไทยและต่างชาติเข้าร่วมกิจกรรม “ลงน้ำ ลดพุง ลดโลกร้อน” สร้างสถิติออกกำลังกายในน้ำทะเลมากที่สุดในโลก 2,009 คน ในวันที่ 25 เมษายน 2552 ที่ชายหาดพัทยา ชลบุรี สมัครได้ที่เวปไซต์ http//www.rcpt.org/index.asp ตั้งแต่วันนี้ - 15 เมษายน 2552 ชี้เป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสมทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ คนอ้วนน้ำหนักตัวมาก ข้อเข่าเสื่อม ระบุคนอ้วนมีส่วนทำให้โลกร้อนขึ้น เพราะใช้พลังงานมากกว่าคนอื่น บ่ายวันนี้ (31 มีนาคม 2552) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยศ.นพ.สมหวัง ด่านชัยวิจิตร ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย นายสุรพงศ์ พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายสมบัติ คุรุพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการกีฬาและสันทนาการ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พลเรือโท นพ.สุริยา ณ นคร เจ้ากรมการแพทย์ทหารเรือ ดร.สุชาติ อุปถัมภ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา และศ.พญ.วรรณี นิธิยานันท์ ประธานเครือข่ายคนไทยไร้พุง แถลงข่าวการจัดกิจกรรม “ลงน้ำ ลดพุง ลดโลกร้อน” จัดโดยราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมการแพทย์ทหารเรือ จังหวัดชลบุรี มหาวิทยาลัยบูรพา และเครือข่ายคนไทยไร้พุง ในวันที่ 25 เมษายน 2552 ที่ชายหาดพัทยา จ.ชลบุรี นายมานิตกล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวนี้ จัดขึ้นเพื่อให้ประชาชนไทยได้รู้จักวิธีการออกกำลังกายในน้ำ ซึ่งเป็นการออกกำลังกายรูปแบบใหม่ ที่เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย ไม่มีข้อจำกัดทั้งผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น อ้วนน้ำหนักตัวมาก หรือผู้ที่มีปัญหาข้อเข่าเสื่อม และประเทศไทยจะสร้างสถิติการออกกำลังกายในน้ำทะเลมากที่สุดในโลก จำนวน 2,009 คนด้วย นายมานิตกล่าวต่อว่า ขณะนี้ คนไทยมีภาวะอ้วนและอ้วนลงพุงเพิ่มมากขึ้น จากการกินอาหารรสหวาน มัน เค็มเพิ่มขึ้น แต่กินผักผลไม้น้อย และขาดการออกกำลังกาย ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาพบว่า ในกลุ่มอายุ 20 - 29 ปี มีภาวะโรคอ้วนเพิ่ม 7.5 เท่าตัว จากร้อยละ 2.9 เป็นร้อยละ 21.7 ในกลุ่มอายุ 40 - 49 ปี อ้วนเพิ่มขึ้น 1.7 เท่า และล่าสุดในปี 2551 ผลการสำรวจภาวะอ้วนลงพุงในประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ ของกรมอนามัย พบว่า เพศชายมีรอบเอวเกิน 90 เซนติเมตรร้อยละ 34 และเพศหญิงรอบเอวเกิน 80 เซนติเมตรร้อยละ 58 ซึ่งน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เนื่องจากคนอ้วนลงพุงจะมีไขมันสะสมในช่องท้องมากเกินไป ทำให้เป็นโรคอ้วนลงพุงหรือเมตาบอลิก ซินโดรม (Metabolic Syndrome) มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง และระดับไขมันในเลือดสูง เสี่ยงเป็นโรคเรื้อรังมากขึ้น ได้แก่ เบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โดยรอบเอวที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ 5 เซนติเมตร จะเพิ่มโอกาสเสี่ยงเป็นเบาหวาน 3 – 5 เท่า นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยจากต่างประเทศยืนยันว่า คนอ้วนมีส่วนทำให้โลกร้อนขึ้น จากความต้องการพลังงานในแต่ละวันสูงกว่าคนทั่วไปจึงต้องการอาหารเพิ่ม ส่งผลให้ต้องทำการเกษตรมากขึ้น เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ในการเดินทางยังต้องใช้เชื้อเพลิงมากขึ้น เพราะเครื่องยนต์ต้องทำงานหนักจากการแบกรับน้ำหนักตัวของคนอ้วน รวมทั้งต้องใช้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ มากขึ้น เช่นเปิดแอร์ เพราะคนอ้วนจะร้อนง่าย ส่งผลต่อภาวะโลกร้อนซึ่งกำลังเป็นภัยคุกคามโลกในหลายๆด้านและทำให้เกิดโรคติดเชื้อเพิ่มขึ้นด้วย นายมานิตกล่าวต่อไปว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้เร่งรณรงค์ให้คนไทยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังดังกล่าว เพื่อลดน้ำหนัก ลดรอบเอว ในกลุ่มคนอ้วนลงพุง และควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานในกลุ่มคนปกติ โดยใช้หลัก 3 อ. ได้แก่ กินอาหารพออิ่ม สัดส่วนอาหารมีผักครึ่งจาน ข้าว 1 ใน 4 ของจาน และโปรตีน เช่น ปลา ไข่ เต้าหู้ ถั่วเมล็ดแห้งอีก 1 ใน 4 ของจาน และลดอาหารหวาน มัน เค็ม ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที สัปดาห์ละ 3-5ครั้ง ทำอารมณ์ให้แจ่มใสและตั้งมั่นในการลดน้ำหนัก หากสามารถลดน้ำหนักได้ 10 กิโลกรัมจะลดความเสี่ยงการตายโดยรวมได้ร้อยละ 20 ลดการตายจากเบาหวานและมะเร็งได้ประมาณร้อยละ 30 – 40 ลดน้ำตาลในเลือดได้ร้อยละ 50 ลดไขมันตัวร้ายได้ถึงร้อยละ 10 - 30 และช่วยเพิ่มไขมันตัวดีซึ่งช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ ด้าน ศ.นพ.สมหวัง ด่านชัยวิจิตร ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การออกกำลังกายในน้ำเป็นทางเลือกการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง เนื่องจากมีประโยชน์เช่นเดียวกับการเดิน วิ่งหรือแอโรบิกบนบก และเหมาะกับประเทศไทยซึ่งน้ำในแม่น้ำในทะเล ไม่เย็นจัดเหมือนเมืองหนาว มีสระว่ายน้ำจำนวนมาก อีกทั้งการวิ่งหรือเดินบนบกอย่างหนักในช่วงที่อากาศร้อนอุณหภูมิสูงกว่า 30 องศาเซลเซียสอาจเป็นอันตรายได้ ทั้งนี้ การออกกำลังกายในน้ำประเภทแอโรบิคในน้ำ จะช่วยเผาผลาญไขมัน และช่วยเพิ่มความทนทานของระบบทางเดินหายใจและหัวใจได้เช่นเดียวกับการออกกำลังกายบนบก โดยในเวลา 30 นาที จะเผาผลาญพลังงานได้ไม่ต่ำกว่า 300 แคลลอรี นอกจากนี้ การออกกำลังกายในน้ำยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ช่วยรองรับน้ำหนักไม่ให้เกิดแรงกดที่ข้อเข่าและข้อเท้า ช่วยพยุงไม่ให้ล้มง่าย อีกทั้งแรงดันในน้ำจะช่วยทำหน้าที่เหมือนการนวด ทำให้ลดอาการปวดหลัง ลดความตึงตัวของกล้ามเนื้อ รู้สึกผ่อนคลาย ระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้น จึงเหมาะกับคนอ้วนมีน้ำหนักตัวมาก ผู้สูงอายุ และหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ทางด้านศ.นพ.อมร ลีลารัศมี ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า กิจกรรมในวันเสาร์ที่ 25 เมษายน 2552 เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป ที่ชายหาดพัทยา ประกอบด้วย กิจกรรมเวที การเสวนาเรื่องการลดโลกร้อน กิจกรรมให้ความรู้การทำกิจวัตรประจำวันและการประดิษฐ์สิ่งของจากของใช้แล้วเพื่อลดโลกร้อน กิจกรรมด้านส่งเสริมสุขภาพจากกระทรวงสาธารณสุข อาทิการตรวจสุขภาพเบื้องต้น นิทรรศการให้ความรู้เรื่องอาหารและการออกกำลังกายเพื่อลดพุง สาธิตเมนูอาหารลดน้ำหนัก อาหารเฉพาะโรค เช่น เบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง อาหารไขมันต่ำ และกิจกรรมการออกกำลังกายในน้ำทะเลที่ชายหาดพัทยา เพื่อสร้างสถิติโลกลงในกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด โดยมีวิทยากรนำ ติดต่อกันนานอย่างน้อย 30 นาที และจำนวนคนออกกำลังกายมากที่สุดคือ 2,009 คน ในเวลา 16.00 น. – 18.00 น. จึงขอเชิญชวนผู้สนใจทั้งชาวไทยและต่างชาติ อายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป สมัครเข้าร่วมออกกำลังกายในน้ำทะเลโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ รับจำนวนจำกัดเพียง 2,009 คนเท่านั้น โดยสมัครผ่านเว็บไซต์ของราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย http//www.rcpt.org/index.asp ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 15 เมษายน 2552 หรือดาวน์โหลดใบสมัครและส่งทางไปรษณีย์ไปที่ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ศาสตร์แห่งประเทศไทย อาคารเฉลิมพระบารมี 50 ปี ชั้น 7 เลขที่ 2 ซอยศูนย์วิจัย ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กทม. 10310 โทรศัพท์ 0 2716 6744 ต่อ 15 โทรสาร 0 2718 1652 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและตรวจสอบการยืนยันรับเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์ดังกล่าว ************************************ 31 มีนาคม 2552


   
   


View 9    31/03/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ