รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งตั้งวอร์รูมรับมือผู้บาดเจ็บในเย็นวันนี้ ที่กระทรวงสาธารณสุข นนทบุรี หลังประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สั่งการเตรียมพร้อมโรงพยาบาลในสังกัดทั้ง กทม.และปริมณฑล สำรองเตียง คลังเลือด ห้องผ่าตัด ห้องฉุกเฉิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยมีโรงพยาบาลราชวิถีเป็นด่านแรก ขณะนี้ความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (12 เมษายน 2552) นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ชาตรี เจริญชีวะกุล เลขาธิการสำนักการแพทย์ฉุกเฉิน นายแพทย์สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลราชวิถี เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ฉุกเฉินหลังประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเมื่อบ่ายวันนี้ นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวว่า นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการตั้งวอร์รูม ขึ้นที่กระทรวงสาธารณสุข เวลา 17.00 น. โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน มีปลัดกระทรวงสาธารณสุข รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมการแพทย์ เลขาธิการสำนักการแพทย์ฉุกเฉิน ทีมงานกทม. และสภากาชาดไทยเป็นกรรมการ เพื่อติดตามประเมินสถานการณ์วางแผนรับมือด้านการแพทย์และสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยจะมีการประชุมนัดแรกภายในเย็นวันนี้ นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวต่ออีกว่า กระทรวงสาธารณสุขได้วางแผนรับมือผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ฉุกเฉิน โดยได้ให้สำนักงานการแพทย์ฉุกเฉินประสานงานใกล้ชิดกับศูนย์เอราวัณ ซึ่งรับผิดชอบในพื้นที่กทม. โดยวางกำลังไว้ 4 มุมเมืองครอบคลุมทุกพื้นที่ทั้งกทม.และปริมณฑล พร้อมปฎิบัติการภายใน 10 – 20 นาที เมื่อเกิดเหตุเมื่อได้รับการร้องขอ โดยในส่วนกลางกระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้โรงพยาบาลราชวิถี เป็นด่านหน้าในการรับผู้บาดเจ็บ และมีโรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี สถาบันประสาทวิทยา สถาบันโรคทรวงอก เป็นเครือข่าย นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวต่อไปว่า ที่โรงพยาบาลราชวิถี ขณะนี้ได้สำรองเตียงว่างมากกว่า 100 เตียง สำรองคลังเลือดหมู่ละ 200 ยูนิต ห้องผ่าตัด ห้องฉุกเฉิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกสาขา พยาบาลและเจ้าหน้าที่ประจำการห้องฉุกเฉิน ตามหอผู้ป่วยหนัก อ็อกซิเจนเหลวระบบท่อใหญ่ สามารถใช้กับผู้ป่วยหนักได้ 7 วัน ทุกอย่างเตรียมการพร้อมแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่โรงพยาบาลเลิดสิน ขณะนี้ได้เตรียมพร้อมทีมงานอย่างเต็มที่ เตรียมทีมผ่าตัดไว้ 3 ชุด คลังเลือด หอผู้ป่วยหนัก หอผู้ป่วยทั่วไป สำรองเกิน 100 เตียง พร้อมปฏิบัติการทันทีเมื่อหน่วยเอราวัณร้องขอ ขณะเดียวกันได้สั่งการให้โรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี นครปฐม ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ให้เตรียมพร้อมหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน ผู้เชี่ยวชาญ เตรียมพร้อม ณ ที่ตั้ง พร้อมปฏิบัติการทันทีเมื่อถูกร้องขอ


   
   


View 7    12/04/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ