กระทรวงสาธารณสุขออกประกาศเตือนประชาชนระมัดระวังโรคติดต่อที่พบบ่อยในช่วงฤดูหนาว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเชื้อไวรัส ติดต่อง่ายทางการหายใจ อาหารและน้ำดื่ม โดยเฉพาะหัดเยอรมันหากติดเชื้อระหว่างตั้งครรภ์อ่อนๆ มีอันตรายมาก ลูกอาจพิการได้ ส่วนนักท่องไพรต้องระวังโรคจากยุงและแมลงต่างๆ แนะผู้นิยมเครื่องกันหนาวมือสอง ราคาถูก ต้องระวังกลาก เกลื้อน เป็นของแถม ก่อนใช้ต้องซักและต้มในน้ำเดือด 15-30 นาที
นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูหนาว อากาศที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลนี้ หากร่างกายปรับตัวไม่ทัน ก็อาจเกิดโรคต่างๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุ เนื่องจากร่างกายมีภูมิต้านทานโรคต่ำ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ได้ให้กรมควบคุมโรคออกประกาศเตือนประชาชนในการป้องกันโรคที่เกิดในฤดูหนาว ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส ประกอบด้วยโรคระบบหายใจ ได้แก่ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดอักเสบ ปอดบวม หัด หัดเยอรมัน และโรคสุกใส โรคระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ โรคอุจจาระร่วง และโรคจากการถูกยุงหรือแมลงต่างๆกัด ได้แก่ไข้มาลาเรีย สครับไทฟัส และโรคลิซมาเนียสิส
โดยไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ เชื้อจะอยู่ในละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย ติดต่อจากการหายใจเอาเชื้อโรคที่อยู่ในละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วยเข้าไป หรือใช้ภาชนะและสิ่งของร่วมกัน อาการเริ่มแรกคือ ไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ น้ำมูกไหล ไอ จาม ถ้าพักผ่อนเพียงพอและได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง จะหายได้เองภายใน 2-7 วัน สำหรับโรคปอดบวม อาจเป็นภาวะแทรกซ้อนของไข้หวัดใหญ่ หรือติดเชื้อปอดบวมโดยตรง มักเกิดหลังโรคหวัด 2-3 วัน อาการสำคัญคือ ไข้สูง ไอมาก หายใจเร็วหรือหอบ ในเด็กจะเห็นชายโครงบุ๋ม เด็กเล็กมักซึม ไม่ดื่มนม/น้ำ บางรายอาจชัก หายใจเสียงดัง ปาก/เล็บมือ/เล็บเท้าเขียว ต้องรีบพาไปพบแพทย์ทันที
ทั้ง 3 โรค สามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลรักษาร่างกายให้อบอุ่น ไม่ใส่เสื้อผ้าที่เปียกชื้น พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการสัมผัสคลุกคลีกับผู้ป่วย รวมทั้งไม่เข้าไปอยู่ในสถานที่ที่มีคนแออัด เช่น โรงภาพยนตร์หรือศูนย์การค้า เมื่อเริ่มมีอาการควรนอนพักผ่อนมากๆ และดื่มน้ำบ่อยๆ เช็ดตัวหรือกินยาลดไข้เมื่อไข้สูง หากไอมากขึ้นหรือไข้สูงนานเกิน 5 วัน ควรรีบไปพบแพทย์ นายแพทย์มงคลกล่าว
นายแพทย์ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคหัด พบบ่อยในเด็กอายุ 1-6 ปี ติดต่อจากไอ จามรดกัน หรือหายใจเอาละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลายที่มีเชื้อเข้าไป ผู้ป่วยจะมีไข้ น้ำมูกไหล ไอ ตาแดง หลังรับเชื้อ 8-12 วัน จากนั้นมีผื่นขึ้นประมาณวันที่ 4 หลังมีไข้ เมื่อผื่นกระจายไปทั่วไข้จะเริ่มลดลง และจางหายไปภายใน 14 วัน ทั้งนี้ ควรแยกผู้ป่วยออกจากเด็กอื่นๆ จนถึงระยะ 4-5 วันหลังผื่นขึ้น โดยแพทย์จะรักษาตามอาการและเฝ้าระวังโรคแทรกซ้อนที่สำคัญ ได้แก่ ปอดอักเสบ อุจจาระร่วง ช่องหูอักเสบ สมองอักเสบ ส่วนโรคหัดเยอรมัน มีอาการคือ ไข้และออกผื่นคล้ายหัด เด็กเล็กมักมีอาการน้อย แต่ในผู้ใหญ่จะมีอาการประมาณ 1-5 วัน หากเป็นหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อในช่วง 3 เดือนแรก จะอันตรายมาก เพราะทารกในครรภ์อาจพิการได้ จึงควรแยกผู้ป่วยจนถึงระยะ 7 วันหลังผื่นขึ้น โดย 2 โรคนี้ สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนตั้งแต่เด็ก ซึ่งจะมีภูมิคุ้มกันไปตลอดชีวิต
ส่วนโรคสุกใส มักเกิดในเด็ก เมื่อเป็นแล้วจะมีภูมิต้านทานไปตลอดชีวิต ติดต่อได้เช่นเดียวกับไข้หวัดหรือสัมผัสน้ำเหลืองจากตุ่มที่ผิวหนังของผู้ป่วย ซึ่งจะแพร่เชื้อได้ตั้งแต่ 1 วันก่อนผื่นขึ้น ถึง 5 วันหลังผื่นขึ้น อาการเริ่มจากไข้ต่ำๆ ต่อมามีผื่นแดงขึ้นที่หนังศีรษะ หน้า ตามตัว ผื่นเปลี่ยนเป็นตุ่มนูน แล้วเป็นตุ่มพองใส ในวันที่ 2-3 หลังมีไข้ จากนั้นกลายเป็นหนองและแห้งตกสะเก็ดใน 5-20 วัน การป้องกันเหมือนกับไข้หวัด หากเป็นเด็กควรให้หยุดเรียนประมาณ 1 สัปดาห์ หากรายใดที่มีอาการคันมาก ควรพาไปพบแพทย์และตัดเล็บให้สั้น เพื่อป้องกันบาดแผลที่เกิดจาการเกา และป้องกันแผลติดเชื้อ โดยเชื้อโรคอาจจะอยู่ตามซอกเล็บ ใต้เล็บได้
นายแพทย์ธวัช กล่าวต่อไปว่า สำหรับโรคอุจจาระร่วงที่เกิดในฤดูหนาว เกิดจากเชื้อไวรัส มักเกิดกับเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ติดต่อโดยการดื่มน้ำหรือกินอาหารที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนเข้าไป และอาจติดทางน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย อาการสำคัญคือถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ หรือถ่ายเหลวบ่อยครั้ง บางรายอาจมีอาการคล้ายไข้หวัดก่อนถ่ายเหลว โดยทั่วไปอาการไม่รุนแรง แต่บางรายอาจขาดน้ำรุนแรงจนต้องรับไว้รักษาในโรงพยาบาล การป้องกันที่ดีที่สุดคือ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะสะอาด ปลอดภัย และมีภูมิต้านทานเชื้อโรคต่างๆ ผู้ดูแลเด็กต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนเตรียมอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ เด็กป่วยไม่จำเป็นต้องงดอาหาร แต่ให้กินอาหารเหลว เช่น น้ำข้าวต้ม น้ำแกงจืด นมแม่ และสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ครั้งละน้อยๆ บ่อยครั้ง และให้เด็กถ่ายอุจจาระในภาชนะที่มิดชิด นำไปกำจัดในส้วมที่ถูกสุขลักษณะ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ โดยอาการจะกลับเป็นปกติได้ภายใน 8-12 ชั่วโมง แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้นต้องรีบพาไปพบแพทย์
นอกจากนี้ ในผู้ที่นิยมการท่องเที่ยวตามป่า เที่ยวน้ำตก เช่น กางเต็นท์นอนชายป่า เชิงเขา ริมน้ำ ควรระวังโรคติดต่อที่เกิดจากแมลงกัด ได้แก่ ไข้มาลาเรีย จากยุงก้นปล่อง โรคสครับไทฟัส จากตัวไรอ่อน หรือโรคลิซมาเนียสิส จากตัวริ้นฝอยทองกัด ควรใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด หรือใช้โลชั่นทากันยุงหรือแมลง ที่สำคัญหากอากาศหนาวเย็นมาก ห้ามก่อไฟนอนผิงภายในเต็นท์อย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้ขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตโดยไม่รู้ตัว สำหรับผู้ที่นิยมเสื้อผ้ากันหนาวมือสอง จะมีความเสี่ยงทั้งจากเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคกลาก เกลื้อน ก่อนนำมาใช้ ต้องซักและต้มในน้ำเดือดนาน 15-30 นาที เพราะการซักธรรมดาอย่างเดียวหรือตากแดดจัดๆ เป็นเวลานาน ไม่สามารถฆ่าเชื้อเหล่านี้ได้หมด นายแพทย์ธวัชกล่าว
************************** 11 ธันวาคม 2549
View 14
11/12/2549
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ