สาธารณสุข ชี้โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ อาการและความรุนแรงของโรคคล้ายไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ปรับแนวทางการวินิจฉัยและรักษาใหม่ ใช้เหมือนกันทั่วประเทศ เน้นการให้ยาต้านไวรัสโอเชลทามีเวียร์เฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ และผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เพื่อป้องกันปัญหาเชื้อดื้อยา วันนี้ (16 มิถุนายน 2552) ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ กรุงเทพมหานคร นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์ เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดการอบรมแพทย์ พยาบาล เรื่อง “แนวทางการวินิจฉัย ดูแลรักษา การให้ยาต้านไวรัสผู้ป่วย กรณีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 (Intensive course on case management for Influenza A/H1N1/2009)” เพื่อนำองค์ความรู้ที่ได้ไปเผยแพร่ พัฒนางานให้พร้อมรับการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีแพทย์ พยาบาล จากโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศ โรงพยาบาลสังกัดต่างๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมประชุมกว่า 400 คน นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 มีอาการคล้ายกับไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ธรรมดา ส่วนใหญ่มีอาการน้อยและหายได้โดยไม่ต้องรับการรักษาที่โรงพยาบาล วิธีการติดต่อและวิธีการป้องกันโรค จะคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ธรรมดา ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขจึงได้ทบทวนมาตรการด้านการรักษาโรค โดยเน้นการดูแลรักษาผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นใจต่อระบบงานสาธารณสุข ในการดูแลให้ประชาชนปลอดภัย รวมทั้งปรับแนวทางการคัดกรอง และดูแลรักษาให้ทันกับสถานการณ์การระบาดของโรค เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่รวดเร็ว ถูกต้อง เหมาะสม ช่วยลดการเสียชีวิตและผลกระทบต่างๆ ที่จะตามมาของการแพร่ระบาดของโรค นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวต่อไปว่า แม้ว่าโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 จะแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดขึ้นใหม่ คนทั่วโลกยังไม่มีภูมิคุ้มกัน แต่จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่าโรคนี้ความรุนแรงไม่มาก อัตราตายต่ำ ดังนั้นคณะทำงานด้านการรักษาพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข จึงได้ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล รามาธิบดี และจุฬาลงกรณ์ ปรับแนวทางการวินิจฉัยและดูแลรักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ให้เหมาะสมและใช้เป็นแนวทางเดียวกันทั่วประเทศ โดยในประเด็นของการให้ยาต้านไวรัสโอเชลทามีเวียร์ จะให้ เฉพาะในกลุ่มที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเท่านั้น ได้แก่ ผู้ป่วยเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้ใหญ่อายุมากกว่า 65 ปี หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ หรือมีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคปอด โรคหัวใจ โรคไต เบาหวาน เป็นต้น เพื่อป้องกันปัญหาเชื้อดื้อยา ซึ่งแพทย์ พยาบาล ที่เป็นผ่านการอบรมเป็นครู ก. ครั้งนี้ จะได้นำความองค์ความรู้ไปใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วย รวมทั้งถ่ายทอดให้กับบุคลากรอื่นๆ ในโรงพยาบาลต่อไป สำหรับสถานการณ์โลก องค์การอนามัยโลกรายงานเมื่อเช้าวันนี้ ตามเวลาในประเทศไทย มีผู้ป่วยยืนยันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 สะสมทั้งหมด 35,928 ราย ใน 76 ประเทศ เสียชีวิต 163 ราย ได้แก่ เม็กซิโก 108 ราย สหรัฐอเมริกา 45 ราย แคนาดา 4 ราย ชิลี 2 ราย คอสตาริก้า สาธารณรัฐโดมินิกัน โคลัมเบีย กัวเตมาลา ประเทศละ 1 ราย ********************************* 16 มิถุนายน 2552


   
   


View 3       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ